ห้องข่าวภาคเที่ยง - มีการประมาณการว่า เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ในไทยมีกว่า 2 แสนคน หนึ่งในจำนวนนี้รวมถึงสถานบริการ อย่างเช่น ร้านคาราโอเกะ ต้องจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อความอยู่รอด เรื่องนี้จะแก้ไขอย่างไร ติดตามได้จาก "คอลัมน์หมายเลข 7" วันนี้
นี่เป็นเสียงของเซ็กซ์ เวิร์กเกอร์ หรือพนักงานบริการ ย่านวงเวียน 22 กรกฎาคม
ยืนยันพื้นที่นี้ไม่มีเจ้าหน้าที่รัฐเรียกเก็บส่วย แต่จำเป็นต้องจ่าย เพื่อแลกกับการได้รับความคุ้มครอง
ที่ผ่านมา มีการประมาณการว่าประเทศไทยมีเซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ประมาณ 2 แสนคน จำนวนหนึ่งอยู่ในสถานบริการ และหลายแห่งต้องยอมจ่ายส่วย 4-5 หน่วยงาน เพื่อให้ธุรกิจเดินหน้าต่อได้
มุมมองของนักขับเคลื่อนทางสังคม เห็นว่าพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่เข้าข่ายการใช้อำนาจหากินกับคนตัวเล็ก
การผลักดันร่างพระราชบัญญัติยกเลิก พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.2539 ซึ่งทำให้การค้าประเวณีถูกกฎหมาย เชื่อว่าจะช่วยหยุดขบวนการจ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐได้
แต่อีกด้านหนึ่ง สังคมไทยยังไม่ยอมรับ เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ ที่ต้องผลักดันให้กฎหมายสำเร็จ เพื่อให้ผู้ประกอบอาชีพเหล่านี้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการและความคุ้มครองจากรัฐ
เรื่องนี้ อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ หยิบยกเหตุผล เพราะบางคนมีผลประโยชน์กับคนกลุ่มนี้ ตามที่ปรากฏเป็นข่าวว่าเจ้าของสถานบริการต้องจ่ายส่วยให้ตำรวจ
ที่ผ่านมา ป.ป.ช. หลายจังหวัด ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาจ่ายส่วยเจ้าหน้าที่รัฐมาโดยตลอด ซึ่งเป็นกิจกรรมผสานพลังป้องปรามการให้และรับสินบน อย่างเช่นที่จังหวัดสมุทรปราการ ลงพื้นที่สถานบริการต่าง ๆ
แม้หลายกรณีจะสาวไปไม่ถึงตัวการใหญ่ เพราะการจ่ายส่วยทำกันลับ ๆ ขณะที่คนจ่ายเลือกจะไม่พูด ยอมเฉือนเนื้อของตัวเอง เพื่อความอยู่รอด
เซ็กซ์เวิร์กเกอร์ และ สถานบริการ ไม่ต่างจากแหล่งขุมทรัพย์ ที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาหาผลประโยชน์ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่มากกว่าการแก้ไขกฎหมาย คือ จิตสำนึก ไม่จ่าย ไม่โกง จะช่วยหยุดขบวนการนี้ได้อย่างแท้จริง
#คอลัมน์หมายเลข7 #ต้านทุจริตตามติดกลโกง #เซ็กซ์เวิร์กเกอร์