เช้านี้ที่หมอชิต - มาดูการจราจรกลับเข้ากรุงเทพฯ ปีนี้การจราจรค่อนข้างลื่นไหล อย่างเส้นทางสายอีสาน ถนนมิตรภาพ ที่ปกติจะติดแน่นหนึบแต่พอมีมอเตอร์เวย์ M6 (ทางหลวงพิเศษหมายเลข 6) ถึงขั้นตำรวจจราจรบอกผิดคาด รถเยอะแต่ไม่ติดสะสมแบบที่ผ่านมา
กลับ กทม.ผ่านฉลุย รถไม่ติดสะสม จ.นครสวรรค์
ก่อนอื่นมาดูเส้นทางสายหลักทางภาคเหนือ การจราจรบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ บนถนนสายหลัก มีปริมาณรถที่วิ่งจากภาคเหนือ มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ต่อเนื่อง อาทิ ทางหลวงหมายเลข 1 พหลโยธินนครสวรรค์-กำแพงเพชร, ถนนสาย 117 นครสวรรค์-พิษณุโลก พบว่าประชาชนก็ทยอยเดินทางกลับกรุงเทพฯ ต่อเนื่องเพราะมีปริมาณรถจำนวนมาก แต่ดีหน่อยที่ปีนี้ไม่ติดสะสม รถสามารถทำเวลาได้
แนะใช้เส้นทางเลี่ยง ลดเวลาขับรถกลับ กทม. จ.ชัยนาท
เช่นเดียวกับการจราจร บนทางหลวงหมายเลข 32 (ถนนสายเอเชีย) ช่วง 4 แยกต่างระดับชัยนาท ขาล่องเข้ากรุงเทพฯ พบรถเริ่มหนาแน่นตั้งแต่ช่วงเย็น แต่ไม่ติดขัด ซึ่งตำรวจก็แนะนำเส้นทางรอง โดยให้เปลี่ยนไปใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 340 เลี้ยวเข้าอำเภอมโนรมย์ จังหวัดชัยนาท ที่หลักกิโลเมตรที่ 150 ผ่านตัวเมืองชัยนาท ผ่านจังหวัดสุพรรณบุรี มุ่งหน้าสู่กรุงเทพฯ ทางอำเภอบางบัวทองแทน จะทำเวลาได้ดีขึ้นเพราะรถมีปริมาณน้อยกว่าเส้นทางหลัก
พร้อมใจใช้มอเตอร์เวย์ M6 ถนนมิตรภาพโล่ง จ.นครราชสีมา
ตำรวจทางหลวงนครราชสีมา ก็เร่งระบายรถ โดยเปิดช่องทางจราจรเพิ่ม เพื่อให้รถมุ่งหน้าสู่ มอเตอร์เวย์ M6 ได้สะดวกขึ้นส่วนการจราจร บนถนนมิตรภาพช่วงกิโลเมตรที่ 52 (หน้าฟาร์มโชคชัย) ตำบลกลางดง อำเภอปากช่อง เดิมจุดนี้รถจะติดสะสมมากในช่วงเทศกาล แต่พอมีมอเตอร์เวย์ M6 ก็พบว่ารถเคลื่อนตัวได้ดี ไม่มีติดสะสม จนตำรวจถึงกับแปลกใจตั้งแต่ทำหน้าที่มาปีนี้เป็นปีแรกที่การจราจรไม่ติดขัด
เปิดไฟเขียวถี่ขึ้น ระบายรถมุ่งหน้าเข้า กทม. จ.ฉะเชิงเทรา
มาที่ถนนสาย 304 ตั้งแต่พื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี จนเข้าพื้นที่จังหวัดฉะเชิงเทรา การจราจรก็คับคั่งตลอดเส้นทาง โดยเฉพาะจุดแยกสัญญาณไฟจราจรจะมีรถติดเป็นทางยาว จนตำรวจต้องเปิดเพิ่มสัญญาณไฟเขียวถี่ขึ้นเพื่อช่วยระบายรถที่มุ่งหน้าสู่ กทม.
ทีนี้ย้อนมาดูคนที่กลับมาก่อนก็ไม่ได้มามือเปล่า แต่ตุนกำลังใจมาจากที่บ้านด้วยการหอบข้าวสาร อาหารแห้ง มากันเต็มไม้เต็มมือ เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพใน กทม. ที่ปัจจุบันแต่ละอย่างแพงมาก และยังได้นำบางส่วนไปแบ่งปันคนรู้จัก รักษามิตรดี ๆ ด้วย
มาดูตัวเลข 7 วันอันตราย เมื่อ 15 เมษายน เกิดอุบัติเหตุ 214 ครั้ง ผู้บาดเจ็บ 209 คน ผู้เสียชีวิต 27 คน รวม 5 วัน เกิดอุบัติเหตุ 1,216 ครั้ง มีผู้บาดเจ็บ 1,208 คน และผู้เสียชีวิต 171 คน โดยรถจักรยานยนต์ยังครองแชมป์เกิดอุบัติเหตุสูงสุด และ กทม. ยังเป็นเจ้าสถิติมีผู้เสียชีวิตสะสมสูงสุด 15 คน