ห้องข่าวภาคเที่ยง - ผ่านมาแล้ว 20 วัน กับเหตุการณ์แผ่นดินไหว ที่ทำให้อาคาร สตง. แห่งใหม่ พังถล่มลงมาทับร่างคนงาน กลายเป็นผู้สูญหาย 103 ชีวิต วันเวลายิ่งผ่านไป ความหวังยิ่งเรือนลาง คงเหลือเพียงต้องการได้ร่างของผู้สูญหายกลับคืนครอบครัว
รอมานานกว่า 20 วันแล้ว ตอนนี้เริ่มยอมรับความจริงได้ว่า ลูกชายที่มาฝึกงานเป็นช่างไฟฟ้า น่าจะเสียชีวิตแล้ว จึงคาดหวังเพียงอย่างเดียว อยากได้ร่างของลูกชายคืน เพื่อจะนำไปประกอบพิธีทางศาสนาที่จังหวัดร้อยเอ็ด นี่เป็นความในใจของคนเป็นแม่ ที่ยังรอคอยอย่างมีความหวังอยู่ที่หน้าไซต์งาน จุดที่อาคาร สตง. พังถล่มลงมา
ซึ่งมาถึงวันนี้ ตัวเลขผู้เสียชีวิตตอนนี้นิ่งอยู่ที่ 44 คน บาดเจ็บ 9 คน และยังต้องตามหาอีก 50 คน ซึ่งจะไม่ตรงกับที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ ที่จะรายงานตัวเลขการรับศพ แบ่งเป็นรับศพสภาพค่อนข้างสมบูรณ์ 41 ศพ ชิ้นส่วนร่างกาย 96 ชิ้น พร้อมส่งคืนญาติ 27 ศพ แต่ส่งคืนไปได้แล้วจริง ๆ 19 ศพ
ความแตกต่างตรงนี้ ผู้บังคับการพิสูจน์หลักฐานกลาง อธิบายว่า มี 2 ปัจจัย ปัจจัยแรกเป็นเรื่องผลการชันสูตรที่ยังไม่ออกมา เพราะต้องรอการสกัด DNA จากกระดูก ที่ต้องใช้ระยะเวลา กับอีกปัจจัย คือในตัวอย่าง DNA ของญาติ 97 คน ยังไม่ตรงกับศพที่ได้มา เป็นไปได้ว่าอาจเป็นแรงงานนอกระบบที่ลักลอบมาทำงาน ซึ่งในท้ายที่สุดหากไม่พบร่างผู้เสียชีวิตรายใดเพิ่มเติมอีก ก็ต้องนำเข้าคณะกรรมการเพื่อพิจารณาเรื่องการเป็นศพไร้ญาติต่อไป
อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้เสียชีวิตที่สถาบันนิติเวชวิทยา สามารถชันสูตร และจับคู่ DNA ได้เรียบร้อย จะมีเจ้าหน้าที่ โทร.ไปแจ้งข้อมูลกับญาติผู้สูญหาย ให้มารับศพเพื่อไปประกอบพิธีทางศาสนา โดยไม่ต้องมานั่งรอที่สถาบันฯ จึงทำให้ญาติส่วนใหญ่ไปรอกันที่บริเวณจุดเกิดเหตุ และศูนย์พักคอยที่ กรุงเทพมหานคร จัดไว้ให้ ขณะเดียวกันก็ยอมรับว่า วันเวลาที่ผ่านไปนานขึ้น การจะพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ก็ต้องใช้เวลามากขึ้น แต่ยังยืนยันว่าสามารถดำเนินการได้
ส่วนเรื่องทางคดี ตอนนี้ ตำรวจนครบาล ไปประชุมหารือติดตามความคืบหน้าในประเด็นต่าง ๆ กันที่ สน.บางซื่อ หลัก ๆ ในการประชุมวันนี้ มีการนำหลักฐาน เช่น เหล็กเส้น ปูน คอนกรีต และพยานหลักฐานอื่น ๆ ที่เจ้าหน้าที่ไปเก็บมาจากในพื้นที่เกิดเหตุ มาประกอบการพิจารณาหาสาเหตุที่อาจทำให้ตึกถล่มด้วย