โฆษก กทม.เผยซากตึกถล่มลดเหลือ 13 เมตร เร่งตัดเหล็ก–ขนซาก เพิ่มรถลำเลียงเป็น 22 คัน ค้นหาผู้สูญหายอีก 50 คน คาดจบภารกิจใน เม.ย.นี้
วันนี้ (17 เม.ย.68) นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วยนายสุริยชัย รวิวรรณ ผอ.สำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย แถลงถึงความคืบหน้าการค้นหาผู้สูญหายในซากอาคาร สตง.ถล่ม หลังแผ่นดินไหว ว่า ตั้งแต่เมื่อวาน(16 เม.ย.68)จนถึงวันนี้ หัวใจหลักของการทำงานคือการลดความสูงของยอดซากอาคาร จากวานนี้ที่มีความสูงประมาณ 14 เมตร และเช้านี้เหลือประมาณ 13 เมตร จากของเดิมสูงกว่า 26 เมตร โดยมีการปรับยุทธวิธี ระดมทีมเข้าตัดเหล็ก โดยการใช้แก๊สซึ่งสามารถทำได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้น เพราะสามารถกระจายกำลังเจ้าหน้าที่ไปได้ ในหลายจุดพร้อมกัน
นอกจากนี้มีการเพิ่มจำนวนรถในการขนเศษปูนและเหล็กจากซากอาคาร จากเดิม 14 คัน โดยเพิ่มเติมอีก 8 คัน ทำให้เมื่อวานนี้สามารถลำเลียงออกไปได้กว่า 170 เที่ยว จากเดิมได้วันละประมาณ 100 เที่ยว
นายสุริยชัย กล่าวว่า สาเหตุที่ทำให้หน้างานล่าช้า คือ โครงเหล็กอาคารที่เป็นอุปสรรค แต่ปัจจุบันสามารถตัดโครงเหล็กได้รวดเร็วขึ้นเนื่องจากมีทีมกระจายกำลังกันใช้แก๊สตัดเหล็ก ในหลาย ๆ จุด พร้อมกัน แต่อุปสรรคในขณะนี้ คือ ต้องเร่งระบายซากเหล็กและปูนออกจากพื้นที่ให้รวดเร็วให้ได้ เพื่อรองรับซากอาคารชิ้นใหม่ที่เติมเข้ามาตลอดเวลา โดยภาพรวมยังเป็นไปตามกำหนดเดิม คือ ต้องเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือน เม.ย.นี้
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 17 เม.ย.68 เวลา 10.00 น. ผู้ประสบภัย 103 ราย เสียชีวิต 44 ราย บาดเจ็บ 9 ราย ติดค้าง 50 ราย นอกจากนี้สำนักอนามัย กทม. ส่งเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องจากสำนักงานโรคติดต่อทางสาธารณสุข สำนักงานสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และสำนักงานเขตจตุจักร ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่ เพื่อวางแผนในการตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม และดูแลสุขอนามัย เติมโซเดียมไฮโปรออไรด์ในพื้นที่ที่มีน้ำขัง เพื่อบำบัดน้ำก่อนลงสู่ที่สาธารณะ พร้อมทั้งฉีดพ่นสารเคมีกำจัดแมลงวันและยุง
