ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ชาวเน็ตแฉเพิ่ม พฤติกรรมขับรถของ ลูกชายนักการเมืองคนดังใน จังหวัดปทุมธานี ก่อนขับไปเบียดรถกระบะลุง-ป้า จนเสียหลักชนเกาะกลางถนน จนลุง-ป้าได้รับบาดเจ็บสาหัส
แฉต่อ "ลูกชายนักการเมือง" กร่างกลางถนน
คลิปนี้ พลเมืองดีที่ขับรถตามมาบันทึกไว้ได้ หลังสังเกตว่า รถเก๋งคันสีขาว ป้ายแดง ขับฉวัดเฉวียนไปมา ตีคู่ไปกับรถกระบะสีดำ เปิดไฟกระพริบตลอดทาง มีทีท่าเหมือนกำลังทะเลาะกันอยู่ ก่อนจะขับเบียดเข้าไปใกล้ และปาดหน้ารถกระบะดำ จนเสียหลักพุ่งชนไหล่ทาง มอเตอร์เวย์ 9 บางปะอิน-บางพลี
หลังเกิดเหตุ คนขับไม่ได้ขับรถหนีไปไหน แต่ได้ถอยรถกลับมา ก่อนลงมาจากรถ มายืนถกเถียงกับรถคู่กรณี ด้วยท่าทาง อารมณ์โมโห ชี้หน้าชี้ตา ไม่ยอม ก่อนจะมีอีกคลิปตามมา คลิปนี้ กัน จอมพลังเป็นผูู้โพสต์
"ลุง-ป้า พนมมือไหว้ขอโทษ ก็ยังไม่หยุด ลุงร้องเจ็บหน้าอกหายใจไม่ออก ก็ยังไม่หยุด แล้วนี้คือสภาพของคนที่จะไปเป็นตัวแทนของประชาชน ความเมตตาอยู่ไหน สิ่งของมีค่ามากว่าชีวิตคนหรือ หรือว่าลุงกับป้า เขาไม่มีปัญญาสู้ถึงเป็นขนาดนี้ ถ้าหยุดตัวเองไม่ได้ ผมจะช่วยหยุดให้" ในคลิปจะเห็นว่า ตอนแรกพีชใส่เสื้อสีเขียวหาเสียง แล้วก็ถอดเสื้อออก เปลี่ยนไปใส่เสื้อยืดสีดำแทน ก่อนจะกล่าวว่าคู่กรณี อย่างเต็มที่
เรื่องนี้ พันตำรวจเอก กึกก้อง ดิศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า เหตุการณ์ในคลิป เกิดขึ้นช่วงเช้าเมื่อวานนี้ (16 เม.ย.) โดยรถกระบะสีดำ เป็นคุณลุงอายุประมาณ 60 ปี ขับมากับคุณป้า กำลังเดินทางกลับจังหวัดลำปาง หลังเดินทางมาเยี่ยมลูกที่ทำงานอยู่ที่ชลบุรี ในช่วงสงกรานต์
จากการตรวจสอบกล้อง พบว่า จังหวะที่ขับมาถึงจุดเกิดเหตุ รถกระบะขับอยู่ช่องทางที่ 2 แล้วได้มีการขับเปลี่ยนเลน ไปช่องทางขวาสุดกะทันหัน ทำให้ไปปาดหน้ารถเก๋งสีขาวป้ายแดง ที่ขับมาช่องทางขวาสุด รถเก๋งจึงหักหลบ จนไปชนกับขอบทางด้านขวา หลังจากนั้น รถเก๋งอาจจะเกิดความโมโห จึงพยายามขับปาดคืน ตามภาพที่ปรากฏในคลิปจนเกิดอุบัติเหตุขึ้น
แต่ไม่จบแค่นั้น เพราะชาวเน็ตยังโพสต์คลิปพฤติกรรมขับรถเก๋งป้ายแดงว่า ก่อนหน้า ที่จะไปชนกับรถกระบะดำ
ซิ่งมาแบบไม่ดูเพื่อนร่วมทางแบบนี้ อันตรายมากนะ เจ้าของคลิป ขับรถมาทางตรง กำลังจะขึ้นมอเตอร์เวย์ 9 บางปะอิน-บางพลี แต่จู่ ๆ รถเก๋งสีขาว ก็พุ่งมาจากอีกเส้นทางหนึ่ง โดยไม่มีการชะลอรถเลยสักนิด เกือบตกข้างทาง เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อน ที่จะไปชนกระบะลุงกับป้าเพียงประมาณ 10 นาทีเท่านั้นคุณผู้ชม
หลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ ชาวเน็ตตามสืบ จนทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ บุตรชายคนเล็กของ นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี ซึ่งตอนนี้ ได้ลงสมัครนักการเมืองท้องถิ่น ในตำแหน่ง ผู้สมัครสมาชิกสภาเทศบาล ตำบลธัญบุรี
นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือ เฮียเบี้ยว นายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี เดินทางมาที่ โรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต 2 จังหวัดปทุมธานี เพื่อเข้าเยี่ยม นายประจักษ์ อายุ 65 ปี คนขับรถกระบะสีดำ เจ็บสาหัส อาการล่าสุดตอนนี้ ยังรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู แต่พอจะพูดคุยโต้ตอบได้บ้าง สอบถามเบื้องต้น ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ ส่วนนางสมศรี อายุ 64 ปี ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ร่างกายกระแทกกับสายเข็มขัดนิรภัย และถุงลมนิรภัย
เฮียเบี้ยว เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาลูกชายขับรถดีมาก ไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ยืนยันไม่เข้าข้างลูกชาย ผิดว่าไปตามผิด เบื้องต้น ตำรวจแจ้งว่า ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกายแล้ว ไม่พบค่าแอลกอฮอลล์ในร่างกาย
ชาวเน็ตตามขุด Facebook นายสมิทธิพัฒน์ หรือ พีช ต่อพบว่า เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2562 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของพีช ได้โพสต์รูปครอบครัว ระบุว่า 20 กว่าปี ที่ผ่านมา ผมไม่คิดว่าจำทำเรื่องย่ำแย่ให้ตัวเอง และคนในครอบครัว ผิดหวังซ้ำแล้ว ซ้ำเล่า แต่ละครั้งที่เกิดปัญหา มันยากที่จะผ่านไปได้ ผมเลือกที่จะหนีปัญหา ไม่กล้าเผชิญหน้า แต่สุดท้ายก็มีแต่ครอบครัว พ่อ แม่ ที่คอยช่วย สุดท้ายนี้ คนเราอย่าใช้ชีวิตบนความประมาท อย่าใช้ชีวิตเสเพล เพราะชีวิตคนเราไม่แน่นอน ผมโชคดีที่มีพ่อ แม่ และครอบครัว ที่คอยเป็นห่วง ส่วนตัวผมกับคนในครอบครัวไม่ค่อยได้คุย และปรึกษาปัญหากันสักเท่าไหร่ ถ้าผมไม่มีป๊า แม่ พี่ชาย พี่สาว "หมาสักตัวก็ยังไม่มอง"
หลังจากที่พ่อของ "พีช" ไปเยี่ยมคู่กรณีเพื่อขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น ก็มีกระแสข่าวว่าตำรวจจะพาตัว "พีช" ไปสอบปากคำวันนี้เลย แต่จากการสอบถามไปทางตำรวจ น่าจะยังไม่ใช่วันนี้
คาด "พีช" เข้าให้ปากคำเพิ่มภายใน 19 เม.ย.
ผู้สื่อข่าวคุณศราวุธ สอบถามกับ ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ให้ข้อมูลว่าอยู่ระหว่างรอทาง ตำรวจทางหลวง ส่งสำนวนคดีมาให้พิจารณาก่อน รวมทั้งจะนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี หลังจากนั้น จะเข้าไปสอบปากคำผู้เสียหายเพิ่มเติมที่โรงพยาบาล หรือเชิญมาสอบปากคำที่ สภ. หากคนเจ็บออกจากโรงพยาบาลแล้ว ส่วนนายพีช หลังจากได้ความเห็นจากแพทย์ก็จะเชิญมาสอบปากคำเช่นกัน ซึ่งถ้ายึดเอาตามที่พ่อของ "พีช" พูด ก็คือจะพามาพบภายในวันที่ 19 เมษายนนี้
ส่วนเรื่องการดำเนินคดี จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนที่รถกระบะของคุณลุง เปลี่ยนเลนจนทำให้รถเก๋งป้ายแดงหักหลบ และเฉี่ยวชน จะเข้าข่ายความผิดฐานขับรถโดยประมาทจนทำให้ทรัพย์สินเสียหาย มีโทษเปรียบเทียบปรับ
ส่วนกรณีที่ 2 คือ "นายพีช" ที่พยายามเอาคืน ด้วยการขับรถเฉี่ยวชน อาจเข้าข่ายได้ถึง 3 ข้อหา หนักสุดคือความผิดฐาน ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น โทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท หรือทั้งจำและปรับ แล้วถ้าหากคุณลุงบาดเจ็บสาหัส ก็จะมีเข้าข่ายการประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสด้วย
หลังได้รับคำสั่งจากผู้บังคับบัญชา ตำรวจทางหลวง ก็เร่งเข้าไปสอบปากคำผู้บาดเจ็บ ใช้เวลาอยู่นานกว่า 3 ชั่วโมง ก่อนจะกลับออกมา บอกว่าตอนนี้ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับใคร แต่ได้สอบสอบปากคำทั้ง 2 ฝ่ายเบื้องต้นแล้ว ตัวผู้บาดเจ็บตอนนี้อยู่ในห้อง ICU พูดคุยโต้ตอบได้บ้าง เมื่อถามว่าจะเข้าข่ายคดีอาญาหรือไม่ พนักงานสอบสวน บอกว่าก็ต้องเป็นไปตามระเบียบ หากพิจารณาแล้วเข้าข่าย ก็จะส่งสำนวนไปที่ สภ.ลำลูกกา ดำเนินการ
ในโซเชียลฯ มีเพจฯ ที่ออกมาแฉพฤติกรรมของ "พีช" ด้วย ทั้งเปลี่ยนเสื้อ และสารพัดจะอ้างว่ารู้จักกับใครบ้าง ซึ่งหนึ่งในนั้นมีการอ้างถึง ผบ.ตร., นายกรัฐมนตรี, อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ ชินวัตร ก็ทำเอาคนที่ถูกพาดพิงถึง ออกมายืนยันว่าไม่เกี่ยวข้อง
เริ่มจาก ผบ.ตร. ยืนยันว่าไม่ได้เป็นญาติกับ "พีช" พฤติกรรมแสดงออก ขาดวุฒิภาวะ ขาดวินัยจราจร ขาดความสำนึก ขาดความรับผิดชอบต่อชีวิต และทรัพย์สินผู้อื่น นอกจากกระทำผิดแล้วยังไม่สำนึกผิด ยังแอบอ้างโอ้อวดไปทั่ว เช่นนี้ถือว่าเป็นผู้ไม่มีวุฒิภาวะ หรือจิตสำนึกที่ดี ได้สั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปทุมธานี ประสานตำรวจทางหลวง เร่งรัดดำเนินคดีนี้เด็ดขาด ไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง ยืนยันว่าไม่มีการช่วยเหลือกัน
นายกฯ แพทองธาร บอกต้องทำตามกฎหมาย
ในฟากการเมือง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน ตอนที่ถูกถามคำถามนี้ ท่านถึงกับร้อง "โอ้…" ก่อนระบุว่า เรื่องนี้เป็นไปตามกระบวนการ และยิ่งเป็นข่าวที่สังคมให้ความสนใจ เรื่องของอิทธิพลจะเข้ามาเกี่ยวข้องไม่ได้ โลกก็เป็นแบบนี้ไปแล้ว
"อนุทิน" ดำเนินคดี หากลูกชาย "นายกฯ เบี้ยว" ผิด
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ยืนยันว่าต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นลูกใคร ทำผิดกฎหมายก็โดนลงโทษทั้งหมด ส่วนที่หลายคนกังวลเรื่องการใช้อิทธิพลในพื้นที่ นายอนุทิน ย้ำว่า ไม่มีใคร ใหญ่กว่าผู้ว่าราชการจังหวัด ตำรวจ หรือ กระทรวงมหาดไทย และรัฐบาล
เพื่อไทยปฏิเสธ "ผู้สมัคร สท." เกี่ยวข้องกับพรรค
ขณะที่ พรรคเพื่อไทย บอกขอให้เป็นเรื่องของตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย พร้อมยืนยัน ผู้สมัคร สท.ไม่ได้เป็นสมาชิก หรือเกี่ยวข้องกับพรรค อย่านำเรื่องดังกล่าวมาโยงกับการเมือง หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี แต่มาร่วมเป็นกำลังใจให้กับผู้บาดเจ็บดีกว่า