โจรใจบาปปลอมเป็นพระห่มผ้าเหลืองย่องเข้ากุฏิเจ้าอาวาสวัดไตรสิกขาโชติปัญญาราม ขโมยเงินวัดไป 3 แสนบาท ทางหลวงพ่อเผย ก่อนหน้านี้ก็โดนไป 1 แสนบาท ไม่ถือโทษโกรธโจร เพราะทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบ
วันนี้ (17 เม.ย. 68) จากกรณีเพจเฟซบุ๊ก “วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี” ได้โพสต์คลิปภาพวงจรปิด ขณะที่ชายแต่งกายคล้ายพระสงฆ์เดินลงมาจากกุฎิพร้อมกระเป๋าผ้าภายในมีเงินสดประมาณ 300,000 บาท พร้อมข้อความว่า “ปลอมเป็นพระ ขโมยเงินที่กุฏิพระอาจารย์ ความเสียหาย 3 แสนกว่าบาท รอบที่ 2 แล้ว ครั้งก่อน แสนบาท” ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดเมื่อช่วงเช้าวันที่ 5 เม.ย. 68 ช่วงงานบุญ ที่วัดไตรสิกขาโชติปัญญาราม บ้านนาดู่ ต.นาดี อ.นาเยีย จ.อุบลราชธานี
ล่าสุด พ.ต.ท.สุรชาติ ยอดคำ สารวัตร (สอบสวน) ชุดสืบสวน สภ.นายเยีย ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุภายในวัดไตรสิกขาโชติปัญญาราม
ทาง พระมหาหนูกาญจน์ เจ้าอาวาสวัด เล่าว่า ตนทราบว่าเงินหายเมื่อเวลาประมาณ 11.00 น. ของวันที่ 5 เม.ย. 68 หลังกลับมาจากกิจกรรมสรงน้ำ พระอาจารย์สมภพ โชติปญฺโญุ พระนักปฏิบัติ ชื่อดังทางภาคอีสาน เมื่อกลับมาถึงกุฎิตนพบว่ากุญแจกุฎิที่ซ่อนไว้ออกมาอยู่ด้านนอก จึงได้เปิดประตูเข้าไปดูก็พบว่ากระเป๋าผ้าที่ใส่เงินสดเตรียมไว้จ่ายค่าอุปกรณ์ก่อสร้างโรงครัว 300,000 บาท หายไป แต่ช่วงนั้นตนไม่ว่างจะมาไล่ดูกล้องวงจรปิดจนกระทั้งเมื่อช่วงเวลา 20.00 น. วานนี้ (16 เม.ย. 68) ตนมานั่งไล่ดูกล้องวงจรปิดก็พบว่า เมื่อเวลา 08.10 น. ของวันที่ 5 เม.ย. 68 มีชายแต่งกายคล้ายพระสวมหมวกไหมพรมลงจากกุฏิพร้อมกระเป๋าผ้าที่ใส่เงินไว้ ซึ่งตนไม่คุ้นหน้าและคิดว่าไม่ใช่พระจริงเนื่องจากไม่ใส่อังสะ และช่วงนี้อากาศร้อนไม่มีพระที่ไหนใส่หมวกไหมพรม และหัวไหล่ที่อยู่นอกผ้าจีวรมีผิวขาวผิดปกติ เพราะหากเป็นพระจริงหัวไหล่ข้างนั้นจะเป็นรอยไหม้ชัดเจน
นอกจากนี้ พระมหาหนูกาญจน์ เล่าอีกว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 5 ธ.ค.67 ซึ่งมีกิจกรรมปฏิบัติธรรม ขณะที่มีพระสงฆ์และญาติโยมมาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก ได้มีคนร้ายไม่ทราบว่าเป็นใครเข้ามาที่กุฏิของพระอาจารย์สมภพ ขโมยเงินสดที่เบิกมาจ่ายค่าฟางแห้งสำหรับปูพื้นให้ผู้ปฏิบัติธรรม 100,000 บาท ซึ่งครั้งนั้นก็ไม่ได้มีการแจ้งความแต่อย่างใด ความเสียหายทั้ง 2 ครั้ง รวม 400,000 บาท
เบื้องต้น พระมหาหนูกาญจน์ บอกว่า ไม่ติดใจถือโทษโกรธคนร้าย เพราะโจรเค้าก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แบบแล้ว แต่หากว่าเห็นข่าวมีจิตใจสำนึกก็ขอให้เอามาคืนจะมากจะน้อยก็ไม่ว่าหรือหากเอาไปใช้เลี้ยงดูครอบครัวลูกหลานแล้วก้ไม่เป็นไรขอให้มาบอกกัน สิ่งที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดของตนด้วยที่ประมาท
ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้นำภาพวงจรปิดที่เก็บได้โดยรอบนำไปเปรียบเทียบกับผู้ต้องโทษในพื้นที่ และส่งให้กับเครือข่ายกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในการตรวจสอบ เพราะเชื่อว่าคนร้ายน่าจะเป็นคนที่รู้ความเคลื่อนไหวของทางวัดเป็นอย่างดี เนื่องจากเลือกลงมือในช่วงที่ทางวัดมีกิจกรรมและมีคนมาจำนวนมาก ๆ