เมื่อวันที่ 18 เม.ย. 68 นางกมลวรรณ หรือ ป้าติ๋ม บ้านหมน อายุ 69 ปี ชาว ต.ท่าเรือ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ออกมาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เมื่อช่วงใกล้เที่ยงของวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา ตนขี่รถจักรยานยนต์กลับจากธนาคาร มุ่งหน้ากลับบ้าน ผ่านสี่แยกหัวถนน เข้าถนนสายนครศรี - หัวไทร โดยขับเลนซ้าย ใช้ความเร็วปกติ
เมื่อถึงที่เกิดเหตุใกล้จุดกลับรถบ้านพังสิงห์ ระหว่างนั้นมีรถจักรยานยนต์ และรถกระบะขับย้อนศร ตนจึงเบี่ยงรถเข้าเลนกลาง เพื่อหลบรถจักรยานยนต์และรถกระบะที่ขับย้อนศร แต่ปรากฏว่ารถกระบะคันดังกล่าว ได้กลับรถตรงจุดยูเทริน์ตัดหน้าตนกะทันหัน ตนจึงพยายามเบรก พื่อไม่ชนรถกระบะคันดังกล่าว สุดท้ายรถจักรยานยนต์เสียหลักล้มกลางถนนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว
หลังเกิดเหตุพลมเมืองดีเข้าช่วยเหลือตน ส่วนรถกระบะคันก่อเหตุไม่มีท่าทีจะจอดรถลงมาช่วยเหลือ แต่กลับขับรถไปตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น โชคดีขณะเกิดเหตุไม่มีรถขับตามหลังมา ไม่เช่นนั้นตนคงได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้
ป้าติ๋ม เล่าอีกว่า หลังเกิดเหตุตนเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล โดยบาดเจ็บที่แขนซ้าย หัวเข่า ข้อเท้า และแผลถลอกตามลำตัว โชคดีที่ศรีษะกระแทกพื้น หมอตรวจอย่างละเอียดแล้วไม่เป็นอันตราย ส่วนเรื่องคดีตนยังไม่ได้แจ้งความ รอให้อาการบาดเจ็บดีกว่านี้ก่อน
อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่บ้าน เข้าช่วยเหลือและรับปากว่าจะติดตามคนขับรถกระบะคันดังกล่าวมารับผิดชอบ คาดว่าน่าจะเป็นคนในพื้นที่ ส่วนตรงจุดกลับรถดังกล่าว เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง เพราะคนขับส่วนใหญ่จะย้อนศร โดยไม่เกรงกลัวกฎหมาย จึงอยากฝากทางตำรวจ สภ.ชะเมา เข้มงวดมากกว่านนี้ และฝากถึงคนขับรถกระบะให้มารับผิดชอบ แล้วตนจะไม่แจ้งความตำรวจ