พายุถล่มเพียง 5 นาที แม่เล่านาทีชีวิต กอดลูกวัย 2 ขวบไว้ในอ้อมอก ขณะต้นไทรและต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 100 ปี ล้มทับอู่ซ่อมรถและบ้านพัก ตัวเองและลูกได้รับบาดเจ็บ ต้องคลานออกมาจากซากบ้าน
จากเหตุการณ์พายุฤดูร้อนพัดถล่มจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (18 เม.ย.68) โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอแม่ริม ซึ่งได้รับผลกระทบหนักสุด มีความเสียหายเป็นวงกว้าง เช้านี้ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบ พบว่าหลายตำบลของอำเภอแม่ริมได้รับผลกระทบอย่างหนัก ที่ตำบลเหมืองแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่จัดงาน “แพเปียกโม้งทรายบีช” ที่ก่อนหน้านี้เคยเจอน้ำป่าซัดพังเสียหายก่อนช่วงสงกรานต์ ล่าสุดเจอพายุพัดถล่มซ้ำ ทำให้หลังคาเต็นท์และร้านค้าหลายร้านพังเสียหาย เช้านี้เจ้าของร้านเริ่มทยอยเข้ารื้อถอนและซ่อมแซม
ด้านตำบลดอนแก้ว ซึ่งถือเป็นจุดที่รับลมพายุแรงที่สุด ตรงข้ามค่ายพล.ร.7 มีต้นไทรอายุกว่า 100 ปี ขนาดกว่า 6 คนโอบ และต้นมะขามอายุกว่า 50 ปี ที่อยู่ติดกัน ถูกแรงลมพัดโค่นล้มทั้งราก ทำให้ร้านไก่ย่างส้มตำ และอู่ซ่อมรถ "ช่างเสือ" ถูกต้นไม้ล้มทับเสียหายยับเยิน เช้านี้เริ่มกู้ซากรถยนต์ที่ได้รับความเสียหาย ส่วนต้นไม้ใหญ่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ ต้องรอทีมกู้ภัยและเจ้าหน้าที่มาช่วย ส่วนร้านส้มตำ ไก่ย่าง อู่ซ่อมรถ และบ้านพัก พังเสียหายทั้งหลัง ยังพบว่ามีรถยนต์และรถจักรยานยนต์หลายคันติดอยู่ใต้ต้นไม้ที่ล้มลงมา
นางสาวอุษา ปัญญาคำ ภรรยาเจ้าของอู่ซ่อมรถ "ช่างเสือ" เล่าเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่า ช่วงนั้นสามีออกไปดูรถให้ลูกค้า ตนเองอยู่เฝ้าอู่กับลูกน้องอีก 2 คน และลูกสาววัย 2 ขวบนอนอยู่ในห้องพักด้านหลัง ขณะที่ลมพายุเริ่มพัดแรงจนหม้อแปลงหน้าร้านระเบิดเสียงดัง ตนเองห่วงลูกจึงรีบวิ่งไปดูลูกสาว ขณะนั้นลมพายุเริ่มแรงขึ้นเป็นลักษณะลมหมุน จนหลังคาร้านเหมือนจะถูกพายุหอบลอยขึ้น ช่วงที่ตนเองเข้าไปดูลูกในห้อง ได้ยินเสียงคล้ายกิ่งไม้ใหญ่หล่นใส่หลังคา จากนั้นได้ยินเสียงดังมาก เพราะต้นไทรและต้นมะขามถูกแรงลมงัดล้มทั้งราก ล้มทับอู่ซ่อมรถ รถลูกค้า และรถส่วนตัว รวม 6 คัน เสียหาย
ต้นไทรที่ล้มลงมายังทับลงที่ห้องพักที่ตนเองและลูกสาวอยู่ ตนจึงรีบอุ้มลูกขึ้นและกอดไว้แน่น ขณะหลังคาพังถล่มลงมา ทำให้ตนได้รับบาดเจ็บตามร่างกาย มีรอยบาดและฟกช้ำ ส่วนลูกสาวหัวแตกและมีบาดแผลหลายแห่ง หลังพายุสงบลงในราว 5 นาที ตนจึงพาลูกสาวคลานออกมาจากซากบ้านพักที่พังเสียหาย ลูกน้องอีก 2 คนรอดตายเพราะวิ่งหลบมาที่หน้าห้องพัก
เช้านี้เริ่มทยอยเคลื่อนย้ายซากรถที่เสียหาย ตอนนี้แทบหมดตัว เพราะทั้งอู่ซ่อมรถ บ้านพัก ทรัพย์สินส่วนตัว และรถลูกค้าพังเสียหายทั้งหมด ต้องรอเจ้าหน้าที่เข้ามาช่วยกู้ซากต้นไม้ เพื่อเข้าไปสำรวจความเสียหายอีกครั้ง
ส่วนร้านส้มตำไก่ย่างที่อยู่ติดกับอู่ซ่อมรถ ได้รับความเสียหายเช่นกัน เพราะรากต้นมะขามและต้นไทรที่ล้มงัดขึ้นจนร้านพังถล่ม มีพนักงานได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย ขณะนี้ยังต้องรอเจ้าหน้าที่เข้าช่วยเหลือ
ทางสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย อ.แม่ริม มีกำหนดประชุมวางแผนช่วยเหลือผู้ประสบภัยเวลา 10.00 น. และอยู่ระหว่างสำรวจความเสียหาย ทั้งบ้านเรือนประชาชน วัด หน่วยงานราชการ และพื้นที่สาธารณะ เพื่อเตรียมการให้ความช่วยเหลือต่อไป
