ห้องข่าวภาคเที่ยง - เหตุสลดใจรถทัวร์เบรกแตก ขณะลงเขาศาลปู่โทน จังหวัดปราจีนบุรี เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา แล้วไปชนท้ายรถคันอื่นจนเพลิงลุกไหม้ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 7 คน บาดเจ็บอีก 53 คน
รถทัวร์ที่ประสบอุบัติเหตุ เป็นรถทัวร์ 2 ชั้น สายหนองคาย-ระยอง รับผู้โดยสาร 60 คน รวมทั้งคนขับ และเด็กรถ มาจากต้นทางจังหวัดหนองคาย มุ่งหน้าจังหวัดระยอง เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงทางโค้งลงเขาลาดชันศาลปู่โทน อำเภอนาดี จังหวัดปราจีนบุรี รถเกิดเบรกแตก ทำให้ควบคุมรถไม่ได้
พอวิ่งผ่านศาลปู่โทนมาได้ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ไปชนท้ายรถเทรลเลอร์ 22 ล้อ และรถบรรทุกแป้งมัน อีก 2 คัน จนทำให้ไฟลุกไหม้ที่รถทัวร์ ผู้โดยสารถูกไฟคลอกเสียชีวิตคารถ 7 คน เป็นคนขับรถ 1 คน คนขับรถสำรอง 1 คน เด็กรถ 1 คน และผู้โดยสาร 4 คน ซึ่งถูกอัดติดอยู่หน้ารถ ที่เหลือ 53 คน พากันหนีออกมาทางช่องประตูหลัก และประตูฉุกเฉิน แต่ทุกคนก็ได้รับบาดเจ็บ
ผู้รอดชีวิตเล่าว่า ช่วงเกิดเหตุระบบเบรกมีปัญหา เพราะตัวรถเริ่มส่ายไปมา เห็นแล้วว่าข้างหน้ามีรถใหญ่ หักหลบไม่พ้นแน่ แต่เนื่องจากตัวเองอยู่ชั้น 2 ของตัวรถ จะหนีลงมาก็ไม่ทัน ตัดสินใจกอดเบาะรถไว้แน่น แล้วหนีรอดออกมาได้
สำหรับผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ อยู่ที่โรงพยาบาลนาดี 39 คน โรงพยาบาลกบินทร์บุรี 13 คน และ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ปราจีนบุรี จำนวน 1 คน ส่วนผู้เสียชีวิตทั้ง 7 คน ก็ยังเก็บอยู่ที่โรงพยาบาล เพื่อรอพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลยืนยันตัวตน เนื่องจากถูกไฟไหม้ทั้งร่าง เพื่อให้ญาตินำกลับไปประกอบพิธีทางศาสนา
จากการตรวจสอบพบว่า ขณะเกิดเหตุรถใช้ความเร็วประมาณ 80-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ที่หยุดรถไม่ได้ เพราะมีปัญหาเรื่องระบบเบรก ทำให้รถพุ่งไถลไปตามเส้นทางลงเขา แต่ทั้งนี้ตำรวจจะต้องสอบปากคำผู้โดยสารที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงอีกครั้งว่าเกิดจากอะไร
มีรายงานว่า ขณะขับผ่านเขาศาลปู่โทน รถไม่ได้จอดลงเวลา และเช็กสภาพรถที่บริเวณจุดสกัดผางาม ซึ่งเป็นจุดสูงสุดของเขาโทน ตามที่เจ้าหน้าที่กำหนด เพื่อให้รถอยู่ในสภาพพร้อมที่จะลงเขา รวมทั้งให้คนขับได้ผ่อนคลาย จึงทำให้เกิดเหตุซ้ำรอยเดิม เหมือนที่เคยเกิดขึ้นหลายครั้งก่อนหน้านี้
มีการเรียกหา แนวทาง การกำหนดพื้นที่ หรือ กำหนดโซนนิงรถทัวร์ 2 ชั้น เหมือนตอนที่นำมาใช้ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งกระทรวงคมนาคม มีประกาศห้ามให้รถทัวร์ 2 ชั้น วิ่งหรือห้ามเข้าไปใช้ 7 เส้นทาง ที่ถือเป็นจุดเสี่ยง ซึ่งมีการเกิดอุบัติเหตุสูงสุด
นั่นก็คือเส้นทางใน จังหวัดปราจีนบุรี, จังหวัดพัทลุง, จังหวัดแพร่, จังหวัดเชียงใหม่, จังหวัดเลย, จังหวัดเพชรบูรณ์ และ จังหวัดน่าน หากใครฝ่าฝืน จะถูกลงโทษปรับสูงสุดไม่เกิน 50,000 บาท และจะมีหนังสือแจ้งการกระทำผิด ไปยังผู้ประกอบการและพนักงานขับรถ ส่วนรถที่ไม่ถูกห้าม หากใช้เส้นทางเสี่ยงดังกล่าว จะมีเจ้าหน้าที่ตรวจการใช้เส้นทางผ่านระบบติดตามรถ หรือ GPS ด้วย และด้วย
จุดพักรถก็สำคัญ ถือเป็นสถานที่สำคัญที่จะช่วยทั้งคนและรถได้พักจากการเดินทางมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน หากแวะเข้าไปใช้บริการ ก็อาจจะช่วยป้องกันอุบัติเหตุได้ หรือ จำเป็นไหมจะต้องออกระเบียบบังคับให้รถทัวร์ แวะจุดพักรถ โดยเฉพาะในเส้นทางเสี่ยงแบบนี้