จับกุมรถติดป้ายทะเบียนที่ระลึกงานรับปริญญา และด้านหน้าติดป้ายแดงปลอม หลังถูกจับตำรวจสืบพบว่า เป็นรถจากตลาดมืด ล่าสุด เจ้าของรถตัวจริงแสดงตนนำรถคืนแล้ว ระบุ เคยนำรถคันนี้ไปจำนำ แล้วผู้รับจำนำแอบนำไปขายต่อในตลาดมืด
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) โดย กองบังคับการตำรวจทางหลวง (บก.ทล.) ร่วมกันจับกุมนายภัทราวุธฯ อายุ 49 ปี ในความผิดฐาน ปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม (ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268)
พร้อมตรวจยึดของกลาง
1. รถยนต์ส่วนบุคคล ยี่ห้อ Honda รุ่น CR-V สีเทา ทะเบียน เพชรบูรณ์ พร้อมกุญแจรถ 1 ดอก
2. แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงด้านหน้า หมายเลข “01958 ใช้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม” จำนวน 1 แผ่น
3. แผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงด้านหลัง หมายเลข “จบ 2556 มหาวิทยาลัยบูรพา” จำนวน 1 แผ่น
พฤติการณ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. ออกตรวจป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมบนท้องถนน พร้อมอำนวยความสะดวกด้านการจราจรช่วงเทศกาลสงกรานต์ ได้พบรถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น CR-V สีเทา สภาพเก่า ติดแผ่นป้ายทะเบียนป้ายแดงทั้งด้านหน้าและหลัง ขับขี่อยู่บนถนนโดยมี นายภัทราวุธฯ เป็นผู้ขับขี่
จากการตรวจสอบเบื้องต้น ผู้ขับขี่สามารถแสดงใบอนุญาตขับขี่ได้ แต่ไม่สามารถแสดงเอกสารประจำรถ หรือคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ได้ เมื่อตรวจสอบแผ่นป้ายทะเบียน พบว่าแผ่นด้านหน้าเป็นป้ายแดงหมายเลข “01958 ใช้เพื่อขายหรือเพื่อซ่อม” ส่วนด้านหลังเป็นป้ายแดงหมายเลข “จบ 2556 มหาวิทยาลัยบูรพา” ซึ่งทั้งสองแผ่นไม่เป็นไปตามลักษณะที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด และไม่พบข้อมูลการออกป้ายจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจสอบข้อมูลจากเลขตัวถังรถยนต์ ผ่านระบบ CRIMES ONLINE ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พบว่ารถคันดังกล่าวมีทะเบียนจริง คือ “เพชรบูรณ์” แต่มีสถานะ “ระงับ การใช้” โดยผู้ถือกรรมสิทธิ์ และครอบครองรถคือ นางธนิษศาศ์ฯ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจับกุมตัวนายภัทราวุธฯ ไว้เพื่อดำเนินคดีในข้อหาเกี่ยวกับการใช้แผ่นป้ายทะเบียนไม่ถูกต้อง และอาจพิจารณาดำเนินคดีเพิ่มเติม หากพบการกระทำที่เข้าข่ายความผิดทางอาญา เช่น การครอบครองรถโดยมิชอบหรือรับของโจร พร้อมประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้ติดต่อไปยังนางธนิษศาศ์ฯ ซึ่งยืนยันว่ารถยนต์คันดังกล่าวเป็นของตนเอง และระบุว่าได้ถูกหลอกให้นำรถไปจำนำกับหญิงคนหนึ่งชื่อ “นางกุ้ง” (ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง) ซึ่งเป็นคนรู้จักกัน โดยในช่วง พ.ศ. 2566 – 2567 ได้ตกลงนำรถไปเป็นหลักประกันเงินกู้จำนวน 6,000 บาท หลังจากนั้น ไม่สามารถติดต่อกับนางกุ้งฯ ได้อีกเป็นเวลากว่า 2 ปี กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีติดต่อไป เพื่อให้นำเอกสารมาแสดงเพื่อขอรับรถคืน นางธนิษศาศ์ฯ ได้เดินทางมายัง ส.ทล.2 กก.3 บก.ทล. (ชลบุรี) พร้อมนำเอกสารยืนยันความเป็นเจ้าของรถมามอบต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ และให้ถ้อยคำประกอบการรับรถคืน
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ได้ความว่า นายภัทราวุธฯ ซื้อรถของกลางมาจากตลาดมืดในราคา 40,000 บาท เมื่อประมาณเดือนพฤศจิกายน 2566 และมีการนัดส่งมอบรถที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านมีนบุรี ซึ่งมีชายไทยวัยรุ่น จำนวน 2 ราย เป็นผู้ขับรถมาส่งให้ถึงที่ อย่างไรก็ตาม นายภัทราวุธฯ ไม่สามารถให้ข้อมูลเกี่ยวกับ ชื่อ-สกุล หรือรายละเอียดของผู้ขายได้ โดยอ้างว่าไม่รู้จักกันมาก่อน และไม่ได้มีการติดต่อกันอีกหลังจากส่งมอบรถเสร็จสิ้น
เตือนภัย "การนำแผ่นป้ายที่ระลึกวันรับปริญญามาใช้แทนแผ่นป้ายทะเบียนรถยนต์จริง อาจเข้าข่ายความผิดฐานปลอมและใช้เอกสารราชการปลอม อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา"
จากการปฏิบัติหน้าที่ในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรีได้ดำเนินการประสานงานกับนางธนิษศาศ์ฯ ผู้เสียหาย เพื่อให้นำเอกสารแสดงสิทธิการครอบครองรถยนต์มาแสดงตนรับมอบรถคืนเป็นที่เรียบร้อย และผู้เสียหายได้แสดงความขอบคุณต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวงชลบุรี ที่ได้ดำเนินการตรวจสอบ ติดตาม และประสานงาน อย่างเต็มความสามารถ จนสามารถติดตามและส่งมอบรถยนต์คืนแก่ผู้เสียหายได้โดยสำเร็จ