อดีตทหารมอบตัว หลังก่อเหตุข่มขืนสาวป่วยออทิสติก เจ้าตัวอ้างผู้เสียหายให้ท่า และไม่รู้ว่าผู้เสียหายป่วย ยันยังไม่ได้สำเร็จความใคร่ เพราะอวัยวะเพศไม่แข็งตัว
จากกรณี ผู้ใหญ่บ้านและผู้ปกครองได้พา น.ส.น้อย (นามสมมติ) อายุ 28 ปี ผู้ป่วยออทิสติก เข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่ สภ.เฉลิมพระเกียรติ จ.บุรีรัมย์ ว่าถูกนายเทพ อายุ 57 ปี ซึ่งเป็นอดีตทหารที่ลาออกจากราชการ ฉุดกระชากเข้าไปในห้องน้ำ แล้วบังคับข่มขืนกระทำชำเรา ขณะที่ น.ส.น้อย ผู้เสียหาย ไปรับจ้างทำความสะอาดบ้าน ที่บ้านหลังหนึ่งในหมู่บ้านโคกยาง ต.อีสานเขต อ.เฉลิมพระเกียรติ เมื่อวันที่ (20 เม.ย.68) ที่ผ่านมา โดยผลตรวจเบื้องต้นพบอวัยวะเพศฉีกขาด
ล่าสุดวันนี้ (22 เม.ย.68) นายเทพ ผู้ก่อเหตุ ได้เข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เฉลิมพระเกียรติ แล้ว โดยยอมรับว่า ได้กระทำชำเรา น.ส.น้อย จริง โดยอ้างว่าวันเกิดเหตุดื่มเหล้าขาวเมาหนัก จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบเห็น น.ส.น้อย กำลังทำความสะอาดอยู่ในบ้านหลังเกิดเหตุคนเดียว ซึ่งเป็นบ้านของญาติ จึงหยอกว่าอยากกอด ได้รับคำตอบกลับมาว่าแน่จริงให้แม่มาขอสิ ด้วยความเมาจึงจูงแขน น.ส.น้อย เข้าห้องน้ำหวังมีเพศสัมพันธ์ด้วย แต่อวัยวะเพศไม่แข็งตัว จึงไม่ได้สำเร็จความใคร่ เพียงแค่กระทำชำเราเท่านั้น ไม่ได้มีการกระชากลากถูแต่อย่างใด ที่สำคัญไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงเป็นออทิสติก เพราะเคยเจอน้อง 2 ครั้ง ก็เห็นพูดพูดปกติ
พอก่อเหตุเสร็จก็นอนในแคร่ข้างบ้านหลังเกิดเหตุ พอสร่างก็กลับบ้าน พออดีตภรรยารู้เรื่องเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นก็ขับรถยนต์ไปตั้งหลักที่บ้านญาติ กระทั่งทราบว่าญาติฝ่ายหญิงพาเข้าแจ้งความ วันนี้จึงได้เดินทางมามอบตัว ก็ยอมรับผิดในสิ่งที่กระทำและยอมรับโทษตามกฎหมาย ทั้งนี้ก็ขอโทษฝ่ายหญิงและครอบครัวด้วยกับสิ่งที่กระทำลงไป
ด้านอดีตภรรยาของผู้ก่อเหตุ เล่าว่า ตนกับอดีตสามีเลิกรากันไปประมาณ 10 ปี เพราะอดีตสามีนิสัยเจ้าชู้ เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาอดีตสามีได้เดินทางมาที่บ้านมากราบแม่ และยกมือไหว้ตนขอมาอยู่ด้วย เพราะไม่มีที่ไปแล้ว ตนจึงบอกว่าถ้าทำตัวดีไม่เจ้าชู้เหมือนเดิม ก็ให้อภัย เจ้าตัวสัญญาจึงให้อยู่ไม่คิดว่าเพียง 2 เดือนจะมาก่อเหตุแบบนี้ หลังจากนี้จะไม่ให้อยู่อีกแล้วจะไปไหนก็ไป ยืนยันว่าจะไม่ประกันตัวปล่อยให้รับโทษตามกฎหมาย
น.ส.น้อย ผู้เสียหาย บอกว่า ไม่ได้ให้ท่า โดนผู้ก่อเหตุลากไปห้องน้ำแล้วถูกลงมือข่มขืนทันทีโดยที่ตนไม่มีทางต่อสู้ หลังจากนั้นทหารได้ออกมานอนหลับอยู่หน้าห้องน้ำตนจึงถ่ายภาพไว้เป็นหลักฐาน ยอมรับว่าเสียใจเพราะในชีวิตที่เกิดมายังไม่มีใครทำแบบนี้กับตน
เบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้แจ้งข้อหา “ข่มขืนกระทําชําเราผู้อื่น โดยขู่เข็ญด้วยประการใด ๆ โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยผู้อื่นนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ หรือโดยทําให้ผู้อื่นนั้น เข้าใจผิดว่าตนเป็นบุคคลอื่น ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่สี่ปีถึงยี่สิบปี และปรับตั้งแต่แปดหมื่นบาทถึงสี่แสนบาท"
