ดับปริศนา เด็ก 4 ขวบ หน้าปูด ร่างกายมีรอยช้ำทั้งตัว คนเลี้ยงเผย คำบอกเล่าของเด็กก่อนเสียชีวิต
วันนี้ (22 เม.ย.68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ ร.ต.อ.กิตติพงษ์ สีหบุตร ร้อยเวรสอบสวน สภ.ระเบาะไผ่ อ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญูว่า มีเหตุเด็กเสียชีวิตภายในบ้าน พื้นที่ตำบลศรีมหาโพธิ ปราจีนบุรี หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปที่เกิดเหตุ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานปราจีนบุรี เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่พบร่างเด็กชาย อายุ 4 ขวบ นอนเสียชีวิตอยู่ในกระต๊อบ จากการตรวจสอบตามร่างกายพบตามลำตัวมีรอยเขียวช้ำ ใบหน้าบวมปูดจนหน้าผิดรูป เจ้าหน้าที่จึงให้หน่วยกู้ภัยนำร่างส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิ เพื่อให้แพทย์ทำการผ่าพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง
น.ส.รุ่งทิวา อายุ 33 ปี คนดูแลและเลี้ยงเด็ก เผยว่า แม่เด็กนำลูกมาฝากให้เลี้ยง 2-3 เดือนแล้ว และเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก่อนหน้านี้แม่และพ่อเลี้ยงมารับเด็กไป กระทั่ง 5 วันที่ผ่านมา ได้นำเด็กกลับมาส่งไว้ตรงแคร่ใต้ต้นไม้ เมื่อตนจับเด็กอาบน้ำก็เห็นรอยจ้ำตามลำตัวเขียวช้ำไปหมด จึงถามเด็กว่าไปโดนอะไรมา เด็กก็บอกว่าโดนตีและทำร้าย แต่ไม่ยอมบอกว่าใครเป็นคนทำ พูดเพียงแต่ว่าเขาไม่ให้พูด ถ้าพูดแล้วเขาจะฆ่าให้ตาย และพูดว่าปวดท้อง ตนก็คิดว่าเด็กไม่เป็นอะไรมาก จึงหายาแก้ปวดท้องกับยาพารามาให้กิน ผ่านมา 3-4 วันซึ่งวันนี้ตนเองไม่อยู่ออกไปธุระ กลับมาก็มาพบว่าเด็กเสียชีวิตแล้ว
สอบถาม นายเอ๋ อายุ 52 ปี พี่ชายของ น.ส.รุ่งทิวา ผู้พบศพคนแรก บอกว่า เด็กมาอยู่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 2-3 เดือน และตนเป็นคนที่ดูแลมาโดยตลอด ไปไหนมาไหนจะเอาไปด้วย เพราะรักเด็กคนนี้เหมือนลูก ก่อนที่จะพบว่าเด็กคนนี้เสียชีวิต ตนออกไปธุระข้างนอก โดยต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปไว้ให้เด็กแล้วก็ออกไป กลับมาช่วงบ่ายก็พบเด็กนอนเสียชีวิตอยู่สภาพแบบนั้น
ทั้งนี้ จากการสอบถามนายเอ๋ ให้การวกไปวนมา จับใจความไม่ได้จ้องแต่จะเป็นลมอย่างเดียว ต้องให้ดมแอมโมเนียอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายเอ๋ มาทำการสอบสวนตลอดทั้งคืน พร้อมตรวจสารเสพติดพบมีสารเสพติดในร่างกาย ทางเจ้าหน้าที่จึงตั้งข้อกล่าวหา เสพยาเสพติดให้โทษ พร้อมให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่หาข่าวอย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพบว่า เด็กมีรอยคล้ายถูกทำร้าย บริเวณหน้าฝั่งขวาบวมปูดเขียวช้ำ ปากแตก ตามลำตัวมีรอยจ้ำเกือบ 10 แห่งบริเวณลูกอัณฑะบวมปูดออกมาอย่างเห็นได้ชัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจะติดตามตัวแม่ของเด็กมาสอบปากคำ ส่วนศพเด็กจะส่งร่างไปพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวช เพื่อหาสาเหตุการตายโดยละเอียดอีกครั้ง
