ข่าวเย็นประเด็นร้อน - ศาลฯ พิพากษาจำคุก นายเนตร นาคสุข และ นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม ในคดีร่วมกันเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐาน ช่วยเหลือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา โดยหนึ่งในหลักฐานสำคัญที่ศาลพิจารณาคือถ้อยคำสัมภาษณ์ของ นายชัยณรงค์ เมื่อปีที่แล้ว
เสียงของ นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม เป็นหนึ่งในหลักฐานสำคัญให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง พิพากษาคดีร่วมกันปฏิบัติหน้าที่มิชอบ กรณีจำเลยทั้ง 8 คน ร่วมกันเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐาน และคำให้การพยานในคดีความเร็วรถยนต์ เพื่อช่วยเหลือ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ "บอส" ให้พ้นผิด หรือ รับโทษน้อยลง
ภายหลังศาลฯ อ่านคำพิพากษา 140 หน้า ใช้เวลาอ่าน 3 ชั่วโมง สรุปว่าศาลฯ พิพากษาจำคุก นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด เป็นเวลา 3 ปี, นายชัยณรงค์ แสงทองอร่าม อดีตอัยการอาวุโส โดนจำคุก 2 ปี ส่วน พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีต ผบ.ตร. กับจำเลยคนอื่น ๆ ศาลยกฟ้อง
หลังจำเลยประกันตัวในชั้นศาล นายชัยณรงค์ เดินออกมาเป็นคนแรก พร้อมปฎิเสธตอบคำถามสื่อ
แล้วระหว่าง นายชัยณรงค์ เดินหนี พลตำรวจเอก สมยศ ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ บอกว่า รู้สึกโล่งใจที่พ้นมลทินของสังคม
ส่วน นายเนตร นาคสุข อดีตรองอัยการสูงสุด เดินลงมาระหว่างที่มีการสัมภาษณ์ อดีต ผบ.ตร. ด้วยสีหน้าเรียบเฉย ปฎิเสธที่จะตอบคำถามว่ายังไม่มีแนวคิดเรื่องการต่อสู้คดี และการอุทธรณ์ ยังไม่สามารถตอบอะไรได้ในขณะนี้
สำหรับคดีเปลี่ยนแปลงความเร็วรถของ "บอส วรยุทธ" ต้องเรียกว่าเป็นคดีคู่ขนานกับคดีหลัก เพราะช่วงแรกมีหลักฐานผลการตรวจของ พฐ.คำนวนว่าความเร็วรถของ "บอส" เกิน 190 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แต่ต่อมาหลังมีการคำนวนโดยใช้สูตรคำนวนความเร็วใหม่ กลับเหลือความเร็วแค่ราว ๆ 76 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ซึ่งค้านสายตา กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลฯ จนมีการคำนวน และตรวจวัดพิสูจน์หลักฐานเรื่องนี้กันใหม่
ส่วนคดีของ "บอส วรยุทธ" หรือ "บอส อยู่วิทยา" ตอนนี้เหลือเพียงข้อหาเดียวที่ยังอยู่ในอายุความ คือ "ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย" ที่จะหมดอายุความในวันที่ 3 กันยายน ปี 2570 และปัจจุบัน "บอส วรยุทธ" ก็ยังคงอยู่ในต่างประเทศ ยังไม่ถูกจับกุมแต่อย่างใด