ข่าวเย็นประเด็นร้อน - หลังสอบปากคำ 3 กรรมการ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด อย่างยาวนาน เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา DSI ก็ได้พาตัวทั้ง 3 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ฝากขังแล้ว
คุมตัวเข้ม ฝากขัง 3 กรรมการ บ.ไชน่าฯ
เป็นภาพขณะผู้สื่อข่าว 7HD พยายามสอบถาม นายโสภณ ว่ามีการถือหุ้นจริงหรือไม่ หรือ เป็นคนชักชวนกรรมการอีก 2 คนมาถือหุ้นหรือไม่ เพราะนายโสภณถือหุ้นมากที่สุด แต่เขาปฏิเสธที่จะตอบคำถาม
เบื้องต้น พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหา เป็นคนต่างด้าวที่ประกอบธุรกิจซึ่งต้องห้ามมิให้คนต่างด้าวประกอบกิจการ หรือต้องได้รับอนุญาตก่อน และเป็นนิติบุคคลซึ่งรู้เห็นเป็นใจกับการกระทำความผิดนั้น ตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนไม่ได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหาทั้ง 3 คน เข้ามอบตัว และให้เป็นดุลพินิจของศาลในการพิจารณา เช่นเดียวกับ นายชวนหลิง จาง ที่ฝากขังไปก่อนหน้านี้
สอบถามกับ พันตำรวจตรี วรณัน ศรีล้ำ โฆษกดีเอสไอ บอกว่า แม้เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำนานกว่า 10 ชั่วโมง แต่ทั้ง 3 คน ยังให้การปฏิเสธทุกข้อหา
โดยอ้างว่าไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นแทนคนจีน และมีเพียงนายโสภณที่ยอมให้การ โดยอ้างว่าคนที่ชักชวนตนเองมาถือหุ้นคือ นายประจวบ และ นายมานัส เพราะทั้ง 2 คน ทำงานในบริษัทที่มีคนจีนเกี่ยวข้อง ส่วนความสัมพันธ์กับนายชวนหลิง จาง ก็อ้างว่ารู้จักกัน
ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าผลการยื่นขอประกันตัว 3 กรรมการ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด น่าจะทราบได้ในช่วงเย็นวันนี้ (22 เม.ย.)
นายกฯ สั่งเร่งหาสาเหตุตึก สตง.ถล่ม
ขณะที่ นายกรัฐมนตรี แพทองธาร ถึงกับเอ่ยปากกลางห้องประชุม ครม. ว่า การสอบหาข้อเท็จจริงตึก สตง.ถล่ม ยังไม่ได้รับความร่วมมือจากหลาย ๆ หน่วยงานเท่าที่ควร ทำให้เกิดความล่าช้า จึงได้กำชับให้ทุกหน่วยงานให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์กับรูปคดีกับฝ่ายสอบสวน รวมทั้งตัว สตง. ก็ต้องส่งเอกสารทั้งหมดมาให้ด้วยเช่นกัน ต้องตรวจสอบสัญญาการจัดซื้อจัดจ้าง มาตรฐานเหล็ก-ปูน รวมถึงการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวที่ผิดกฎหมาย และการฮั้วประมูล รวมถึงเรื่องการเยียวยา ก็ต้องมีการปรับหลักเกณฑ์ใหม่เพื่อให้เหมาะสมด้วย
สตง.เร่งรวบรวมเอกสารชี้แจงคณะตรวจสอบทุกคณะ
ส่วนที่สำนักงาน สตง. ยังไม่มีการแถลงข่าว ชี้แจงรายละเอียดต่าง ๆ ในวันนี้ เพราะอยู่ระหว่างเร่งรวบรวมเอกสารที่มีจำนวนมาก เพื่อเตรียมข้อมูลชี้แจงกับทุกหน่วยงานที่ทำการตรวจสอบ อาทิ กรรมาธิการ ป.ป.ช. ของสภาฯ ในวันที่ 30 เมษายน และกรรมาธิการด้านเศรษฐกิจ
ซึ่ง สตง. ยืนยัน พร้อมส่งรายละเอียดให้ทุกหน่วยงานที่เรียกเข้ามา รวมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เพื่อให้ข้อมูลกับทางพนักงานสอบสวนและดีเอสไอ