ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เรื่องราวของ "เจ๊สุพิณ" ชาวบ้านใจเด็ด ที่ไปหาเห็ดในป่า แล้วถูก "งูจงอาง" ฉกเป็นแผลเหวอะ แต่แข็งใจเตะงูจนสลบคาเท้า แล้วพาไปให้หมอตรวจสอบ เพื่อทำการรักษาได้ตรงกับพิษงู ตอนนี้ "เจ๊สุพิณ" ปลอดภัยแล้ว และออกจากโรงพยาบาลเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา
เรื่องราวของนางสุพิน วันเพ็ญ หรือ "เจ๊สุพิณ" อายุ 47 ปี ที่ออกไปหาเห็ดในป่าอ่างเก็บน้ำคลองคันโท อำเภอวัฒนานคร จังหวัดสระแก้ว แล้วถูก "งูจงอาง" ขนาดใหญ่ ความยาว 3-4 เมตร ฉกที่บริเวณหัวเข่าและขาซ้าย จนเป็นแผลลึก
แต่ "เจ๊สุพิณ" กัดฟันสู้กับ "งูจงอาง" แม้ขาจะเจ็บ โดยใช้เท้าเตะเสยไปที่ก้านคอของ "งูจงอาง" และปลายเท้าถูกปลายคาง จน "งูจงอาง" สลบคาเท้า แล้วตีซ้ำจนตาย จับหิ้วเอางูมาที่โรงพยาบาล ให้หมอตรวจสอบว่าเป็นงูอะไร เพื่อจะฉีดเซรุ่มและรักษาได้ตรงกับพิษของงูชนิดนั้น และ "เจ๊สุพิณ" ต้องนอนไอซียู และรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา วันนี้ "เจ๊สุพิณ" ออกจากโรงพยาบาลแล้ว หลังจากแผลไม่ติดเชื้อ และอาการดีขึ้น
ต้องบอกว่าเจ๊ใจเด็ดจริง ๆ แต่คราวหน้าอย่าเสี่ยงแบบนี้ เพราะมีวิธีการป้องกันตามที่ นายสุธี แนวหาด หรือ "บังฉา" นักจับ "งูจงอาง" ชื่อดังที่จังหวัดกระบี่ และทางภาคใต้ บอกว่า ถ้าเจอกับ "งูจงอาง" ในระยะกระชั้นชิด ให้ดูพฤติกรรมของงูว่าเป็นแบบไหน ถ้ารู้สึกว่าปลอดภัยก็ให้เราค่อยขยับถอยออกมา
แต่ถ้าเจอในระยะ 2-3 เมตร "งูจงอาง" ก็จะตกใจเราและเราก็ตกใจงู ดังนั้นต่างคนต่างก็แยกย้ายวิ่งหนี เพราะ "งูจงอาง" มีพิษที่ร้ายแรง หากถูกกัดแล้วงูปล่อยพิษออกมาจำนวนมาก พิษจะทำลายระบบประสาท ทำให้เสียชีวิตได้
สำหรับ "งูจงอาง" ตัวเมียจะดุร้ายมากกว่าตัวผู้ โดยเฉพาะในช่วงวางไข่ เพราะมันจะหวงไข่ ขณะที่ตัวผู้จะคอยเฝ้าอยู่ห่าง ๆ และเตือนเป็นอุทาหรณ์ หากใครที่เข้าป่าหาของป่าในช่วงนี้ก็ให้ระวัง หากพบเห็นงูอย่าเข้าใกล้ เพื่อความปลอดภัย เพราะไม่รู้ว่าเป็นงูอะไร มีพิษหรือไม่ ซึ่งอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับ "เจ๊สุพิณ"