ห้องข่าวภาคเที่ยง - ครอบครัวของหญิงสาวร้องเรียนโรงพยาบาลใหญ่ รักษา จ่ายยาผิดพลาด จากปวดศีรษะ หมอให้กินยากันชัก หลังจากตรวจพบเนื้องอกในสมอง ปรากฏว่าแพ้ยาจนตาบอด แต่โรงพยาบาล ไม่จ่ายเงินเยียวยา
คนไข้แพ้ยากันชัก จนตาบอด ร้อง รพ.เยียวยา
เหตุการณ์เกิดขึ้นเดือนกันยายน ปีที่แล้ว ตอนที่หญิงสาวไปเฝ้า แม่ป่วยที่โรงพยาบาล แล้วเป็นไข้ ปวดศีรษะ ทางโรงพยาบาล ได้ส่งตัวไป ทำทีซีแสกนตรวจสมอง พบเนื้องอกในสมอง ก็นอนโรงพยาบาลไป 1 คืน แล้วหมอสั่งจ่ายยา กลับมากินที่บ้าน 1 กระปุก
หมอบอกว่า เป็นยากันชัก ให้กินวันละ 3 เม็ด พอกินยาที่หมอให้ได้ 10 วัน จู่ ๆ ก็น็อกหมดสติ โดยญาติพาส่งโรงพยาบาล ต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียูนานกว่า 1 เดือน ต่อมาตามองไม่เห็นแล้ว ผิวหนังเน่าพุพอง เล็บหลุด ฟันหลุด ผมร่วง คราวนี้ก็กลายเป็นตาบอดสนิท 2 ข้าง ทำงานไม่ได้ ขาดรายได้ แล้วต้องไปรักษาต่อเนื่อง เสียค่าเดินทางไปหาหมอเดือนละหลายครั้ง ลำพังเงินที่ได้ช่วยเหลือเยียวยาจาก สปสช. มา 260,000 บาท ไม่เพียงพอ เพราะทำงานต่อไม่ได้แล้ว ขาดรายได้
ดรามา คนไข้ตากแดดรอคิวรักษา
ปัญหาการให้บริการของโรงพยาบาลรัฐ ยังมีที่โรงพยาบาลอีกแห่งหนึ่งในอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ มีประเด็นดรามา คนไข้ยืนตากแดดรอคิวเข้ารักษา ท่ามกลางอากาศที่ร้อนจัด ตอนนี้ โรงพยาบาลแก้ปัญหาแล้ว จัดคนมาทำงานมากขึ้นช่วง 06.00-08.00 น. ไม่ให้คนไข้ต้องรอนาน ลดความแออัด และจัดพื้นที่นั่งรอก่อนเปิดให้บริการด้วย
ทีนี้ ตำรวจในพื้นที่โพสต์ซ้ำเติมว่าโรงพยาบาลไม่เห็นใจคนไข้ ให้นึกถึงเวลาตอนไปเข้าแถวเอาของจากโรงทาน อากาศร้อนปานใดก็สู้ ทำให้คนเข้าไปวิจารณ์ว่าพูดเปรียบเทียบแบบนี้ ไม่เหมาะสมหรือเปล่า คนไข้มารักษา โรงพยาบาลให้การรักษา แต่คนมากันแน่นมาก
ล่าสุด ผู้บังคับบัญชา สั่งสอบข้อเท็จจริง ที่ตำรวจนายนี้ ไปโพสต์ข้อความเปรียบเทียบเช่นนั้น ถ้ามีพบความผิด ก็จะถูกลงโทษทางวินัยต่อไป