รวบคาราวาน ขนแรงงานเถื่อน ท้าทายอำนาจรัฐ ลักลอบขนแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย 26 ราย ปลายทางประเทศมาเลเซีย
กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จับกุม
1. MR.NAING (เนียง) อายุ 38 ปี สัญชาติ เมียนมาร์
2. นายวรกรฯ อายุ 18 ปี
โดยกล่าวหาว่าผู้ถูกจับกุมที่ 1 และ 2 ว่า “รู้ว่าคนต่างด้าวคนใดเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือด้วยประการใดใดเพื่อให้คนต่างด้าวนั้นพ้นจากการจับกุม”
3. ผู้ต้องหาที่ 3 – 28 แจ้งข้อกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” รวมผู้ต้องหาทั้งหมด จำนวน 28 ราย
เจ้าหน้าที่ กก.6 บก.ป. ลงพื้นที่สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 จะมีการลักลอบขนแรงงานชาวเมียนมาร์ซึ่งเข้ามาในประเทศไทยโดยผิดกฎหมาย ผ่าน จ.พัทลุง เพื่อเดินทางต่อไปยังประเทศมาเลเซีย เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้วางแผนเข้าทำการจับกุม จนพบรถยนต์ต้องสงสัย 2 คัน ขับตามกันมาในลักษณะผิดสังเกต จึงเข้าแสดงตัวและเรียกให้หยุดเพื่อตตรวจสอบ พบว่า
คันที่ 1 พบผู้ต้องหาที่ 1 เป็นผู้ขับขี่และมีชาวเมียนมาโดยสารมา 14 คน
คันที่ 2 พบผู้ต้องหาที่ 2 เป็นผู้ขับขี่และมีชาวเมียนมาโดยสารมา 14 คน
จากการตรวจสอบพบว่ามีผู้โดยสารเพียงแค่ 2 คนเท่านั้นที่มีเอกสารการเข้ามาและอยู่ในประเทศไทยถูกต้อง
เจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อกล่าวหาดังนี้ :
- ผู้ต้องหาที่ 1 “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย แล้วร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุมและเป็นคนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
- ผู้ต้องหาที่ 2 “รู้ว่าคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย แล้วร่วมกันซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือเพื่อหลีกเลี่ยงการจับกุม”
- ผู้ต้องหาที่ 3-28 “เป็นคนต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”
สอบถามคำให้การเบื้องต้น ทราบว่า
-ผู้ต้องหาที่ 1 และ 2 ให้การรับว่า ได้รับการว่าจ้างจากชายชาวเมียนมาร์ ให้พาแรงงานทั้งหมดจำนวน 26 คน เดินทางจาก จ.ชุมพร ไปส่งยัง อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยได้รับค่าจ้างคนละ 5,000 บาท
-ผู้ต้องหาที่ 3 - 28 ให้การว่า ลักลอบข้ามแดนผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณด่านเจดีย์สามองค์ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดยมีรถกระบะมารับส่งก่อนขึ้นรถทั้งสองคัน และเตรียมเดินทางต่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย โดยตกลงจ่ายค่าขนส่ง 6,000 ริงกิตต่อคน (ประมาณ 50,000 บาท) เมื่อถึงปลายทาง
จึงควบคุมตัวส่ง พงส.สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย และจัดทำบันทึกจับกุมพร้อมประวัติภาพถ่ายเรียบร้อยแล้ว