ข่าวเย็นประเด็นร้อน - เหตุรถบรรทุกอัดก๊อปปี้รถอเนกประสงค์ มีผู้เสียชีวิต 8 คน พบข้อมูลว่าก่อนเกิดอุบัติเหตุรถบรรทุกขับสลับเลนไป-มา เป็นระยะทางเกือบ 10 กิโลเมตร
วงจรปิดจับภาพรถบรรทุกขณะวิ่งบนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ฝั่งขาออก มุ่งหน้าจังหวัดชลบุรี จากภาพขณะรถวิ่งจะเห็นว่าผู้ขับขี่ขับกินเลนไปทางด้านซ้าย เหตุเกิดเวลาประมาณ 22.00 น. เมื่อคืนนี้
ก่อนประสบอุบัติเหตุพุ่งชนรถยนต์อเนกประสงค์ ที่จุดจอดรถฉุกเฉิน เป็นเหตุให้ครอบครัวหนึ่ง เสียชีวิตยกครัว รวม 8 คน โดยผู้รอดชีวิต 2 คน เป็นเด็กหญิง อายุ 12 ขวบ และ 18 ปี
ครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมดเป็นชาวบ้าน ที่บ้านเหล่าศรีจารย์ หมู่ 10 ตำบลนาข่า อำเภอเมือง จังหวัดอุดรธานี กำลังขนญาติพี่น้องเดินทางไปเยี่ยมญาติ ที่จังหวัดระยอง แต่เกิดอุบัติระหว่างทาง
พอญาติทราบข่าวร้าย ทำให้ นายทองเลื่อน อายุ 67 ปี พ่อของผู้เสียชีวิต ที่สูญเสียภรรยา ลูกสาว ลูกเขย และหลานสาว ไปพร้อมกันทีเดียว ร้องไห้แทบขาดใจ ท่ามกลางชาวบ้าน, นายก อบต.นาข่า และ ปลัดอำเภอ มาเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ
โดย ลุงทองเลื่อน บอกว่า ก่อนเกิดเหตุมีเพื่อนสนิททัก หลังทราบว่าครอบครัวผู้ตายออกรถวันโกน วันพระ หรือ วันเดือนดับ บอกว่าโบราณเขาเตือนมาอย่าออกรถวันนี้ ผ่านมา 6 วัน ก็ประสบอุบัติเหตุจริง ๆ
นายทองเลื่อน ยังบอกว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวชวนไปเยี่ยมลูกชายคนโตที่จังหวัดระยอง แต่ตนไม่ได้ไปเพราะไม่สบาย นั่งรถนาน ๆ ไม่ได้ นางหมุนภรรยา ลูกสาว และหลาน รวม 7 คน พากันนั่งรถไปรับลูกสะใภ้และหลานที่โคราช อีก 3 คน รวมเป็น 10 คน ส่วนหลาน อีก 2 คน ที่พักรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ทราบข้อมูลว่า 1 ในนี้ เพิ่งเรียนจบ ม.6 รอเข้ามหาวิทยาลัย
ส่วนสาเหตุที่ต้องซื้อรถ เพื่อนสนิทผู้ตาย เล่าให้ฟังว่า เพราะครอบครัวเขามีแผนจะไปต่างประเทศ เลยซื้อรถเตรียมไว้ให้หลานสาวเข้ามหาวิทยาลัย
กรมทางหลวง ชี้ "จุดจอดรถฉุกเฉิน" ห้ามใช้หากไม่จำเป็น
กรมทางหลวง บอกว่า จุดเกิดเหตุเป็น "จุดจอดรถฉุกเฉิน" กว้าง 5 เมตร ยาว 100 เมตร สามารถรองรับรถขนาดใหญ่ไม่น้อยกว่า 5 คัน เป็นพื้นที่ที่อนุญาตให้ใช้ได้เฉพาะกรณีรถเสีย ยางแตก เครื่องยนต์ขัดข้อง หรือ ผู้ขับขี่มีเหตุฉุกเฉินทางร่างกายเท่านั้น หากมีผู้ใช้รถใช้ถนนนำรถมาจอดโดยไม่มีเหตุฉุกเฉิน เช่นมาจอดนอนพัก ก็จะมีตำรวจเข้าไปตักเตือน หากพบว่าฝ่าฝืนอีกมีโทษปรับ 5,000 บาท
สำหรับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ทางกรมฯ ได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดย้อนหลังตั้งแต่ กม.10 พบว่ารถบรรทุกคันที่ก่อเหตุมีการเปลี่ยนเลนไปมาหลายครั้ง จากเลนที่ 2 ไปเลนที่ 3 และกลับไปเลนที่ 2 อีกครั้ง แต่ไม่มีพฤติกรรมขับขี่หวาดเสียว และยังไม่สามารถระบุความเร็วของรถในขณะเกิดเหตุได้ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการกู้ภาพ