รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ขับรถนำขบวนเคลื่อนย้ายร่างตำรวจ 6 นาย โดย พ.ต.อ.ประธาน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนายร้อยที่สนิท ขอมาส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย
วันนี้ (26 เม.ย.68) พันตำรวจเอกจิรกฤต จารุนภัทร์ รองผู้บังคับการตำรวจจราจร ขับรถนำขบวนเคลื่อนย้ายร่างตำรวจ 6 นาย ซึ่งเป็นเพื่อนร่วมรุ่นนรต. 54 เดียวกันกับพันตำรวจเอกประธาน เขียวขำ นักบิน ( สบ 4 ) กองบินตำรวจ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์เครื่องบินตกในครั้งนี้
พันตำรวจเอกจิรกฤต ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ บอกว่า พันตำรวจเอกประธาน เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนายร้อยตำรวจรุ่นที่ 54 สนิทสนมกันมากมีอะไรก็ประสานพูดคุยกันตลอด พอระยะหลังเพื่อเริ่มสนใจเป็นนักบินก็เริ่มเปลี่ยนสายจากเดิมที่อยู่สืบสวนสอบสวนไปเรียนรู้เรื่องการบินมากขึ้น จนกระทั่งได้เป็นนักเรียนนักบิน สบ.1 ตอนนั้นประมาณ 7-8 ปีที่แล้ว เพิ่งจะติดยศสารวัตร
สำหรับอุปนิสัยของพันตำรวจเอกประธาน เป็นเพื่อนที่น่ารักมากกับเพื่อนทุกคน ซึ่งจะพูดคุยกันในกลุ่มไลน์เกือบทุกเช้า พอทราบว่าเพื่อนต้องไปทำการบินก็จะแสดงความห่วงใยบอกให้ระมัดระวังและทำภารกิจปลอดภัย เนื่องจากเพื่อนเป็นนักบินลองเครื่อง คือเป็นเครื่องบินที่เพิ่งซ่อมเสร็จจะต้องทำการบินเพื่อทดสอบ ซึ่งนักบินจะต้องมีประสบการณ์และชั่วโมงบินสูง
ส่วนภารกิจที่เพื่อนมักจะเล่าให้ฟังว่ารู้สึกภูมิใจ คือการได้ไปทำการบินที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ถือเป็นเกียรติภูมิของเพื่อน และการบังคับเครื่องบินให้พ้นจากเขตชุมชนไปตกลงในทะเล นับเป็นความกล้าหาญในการตัดสินใจตามระเบียบนิรภัยการบิน ซึ่งคิดว่าถ้าเพื่อนรอดชีวิตจากเหตุการณ์นี้ก็คงจะมานั่งเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนทุกคนฟัง เพราะคงเป็นความภาคภูมิใจของเขา
เบื้องต้นพันตำรวจเอกประธาน มีครอบครัวและลูกเล็กที่ต้องดูแล ซึ่งหลังเกิดเหตุเพื่อนร่วมรุ่นได้ดูแลครอบครัวอย่างดี หาเพื่อนรับรู้ก็อยากจะบอกว่า “ไม่ต้องห่วงครอบครัวเดี๋ยวกูดูแลเอง”
สำหรับในวันนี่ตั้งใจทำหน้าที่ขับรถมอเตอร์ไซค์นำขบวน เคลื่อนร่างจากนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ มายังวัดตรีทศเทพ เพื่อมาส่งเพื่อนเป็นครั้งสุดท้าย ซึ่งได้ขออนุญาตจากผู้บังคับบัญชามาทำภารกิจในครั้งนี้