ราชวงศ์ ผู้นำประเทศ และผู้แทนจากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก เดินทางร่วมพิธีพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ที่จัดขึ้นอย่างเรียบง่ายตามพระประสงค์
พระคาร์ดินัล โจวานนี บัตติสตา เร ชาวอิตาลี หัวหน้าคณะพระคาร์ดินัล เป็นประธานประกอบพิธีพระศพสมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ณ จัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นครรัฐวาติกัน ซึ่งเริ่มขึ้นเมื่อเวลา 10.00 น.ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่น หรือ 15.00 น. ตามเวลาในไทย โดยสำนักวาติกันเปิดเผยว่า มีผู้ศรัทธาเดินทางมาร่วมพิธีประมาณ 200,000 คน ในจำนวนนี้ราว 50,000 คน ได้มีโอกาสเข้าไปร่วมพิธีภายในจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ นอกจากนี้ ยังมีเหล่าราชวงศ์ ประธานาธิบดี นายกรัฐมนตรี และผู้แทนจากกว่า 150 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วมพิธีด้วย รวมถึงเจ้าชายวิลเลียม แห่งราชวงศ์อังกฤษ, ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ และประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน
พระคาร์ดินัล โจวานนี บัตติสตา เร กล่าวว่าสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสมีความห่วงใยต่อผู้อพยพ ตลอดจนมีพระประสงค์ให้ยุติสงคราม พร้อมย้ำคำกล่าวของสมเด็จพระสันตปาปาฟรานซิสที่ว่าให้ "สร้างสะพาน, ไม่ใช่สร้างกำแพง" รวมถึงความห่วงใยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
สำหรับการประกอบพิธีพระศพในครั้งนี้ถูกจัดขึ้นอย่างเรียบง่าย ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ แหวกธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติสืบต่อกันมานายหลายร้อยปีของศาสนจักรคาทอลิก ไม่ว่าจะเป็นหีบพระศพชั้นเดียวที่ประกอบจากไม้และสังกะสี แทนหีบพระศพสามชั้นแบบดั้งเดิมที่ประกอบจากไม้ไซเปรส, ไม้โอ๊ก และตะกั่ว
นอกจากนี้ พระองค์ยังมีพระประสงค์ที่จะไม่ฝังพระศพในมหาวิหารนักบุญเปโตร หรือมหาวิหารเซนต์ปีเตอร์ ตามแบบอย่างพระสันตะปาปาในอดีต แต่ทรงเลือกที่จะฝังพระศพ ณ มหาวิหารซานตามาเรียมัจโจเร ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากสถานีรถไฟหลักของกรุงโรม ห่างจากจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ออกไปราว 5.5 กิโลเมตร ในย่านที่พักอาศัยของชนชั้นแรงงาน และเป็นย่านที่มีความหลากหลายทางเชื้อชาติศาสนา และยังเป็นมหาวิหารที่สมเด็จพระสันตะฟรานซิสมักเสด็จไปสวดภาวนา รวมทั้งถวายเครื่องสักการบูชาเป็นประจำ ซึ่งพระองค์นับเป็นพระสันตะปาปาพระองค์แรกในรอบกว่า 100 ปี ที่เลือกฝังพระศพนอกเขตนครรัฐวาติกัน
ทั้งนี้ สำนักวาติกันคาดว่าจะมีผู้ศรัทธาเดินทางมาร่วมพิธีพระศพในครั้งนี้ประมาณ 200,000 คน โดยจำนวนมากเดินทางมารอตั้งแต่เช้าตรู่ บางก็มาปักหลักนอนรอตั้งแต่เวลากลางคืน ก่อนที่จะมีการเปิดประตูให้ประชาชนทั่วไปเข้าไปภายในลานจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา