เปิดชีวิต "หมู่อ๊อฟ" ตำรวจที่เสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินตก จากเด็กกำพร้าแต่ใฝ่ดี บากบั่นส่งตัวเองเรียน จนสอบติดตำรวจ รับราชการได้ 1 ปี ชีวิตกำลังลืมตาอ้าปากกลับมาเกิดเหตุสลด ด้านพี่ชาย ผู้พลัดพรากกันมา 20 ปี บอกวันที่น้องรับราชการตำรวจ แม้แต่เงินตัดชุดยังไม่มี
ล่าสุด (27 เม.ย. 68) เพจเพื่อนตำรวจ โพสต์ข้อความระบุว่า " หลายท่านอาจยังไม่รู้ว่า อ๊อฟ ตำรวจที่เสียชีวิต คือคนต่อสู้ชีวิตที่น่าชื่นชม ส.ต.ต.จิระวัฒน์ มากสาขา เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกกลางทะเลในพื้นที่ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี
เมื่อเช้าวันที่ 25 เมษายน 2568 “หมู่อ๊อฟ” ตำรวจหนุ่มนายนี้พ่อกับแม่เสียชีวิตตั้งแต่เขาเรียนชั้นอนุบาล
อ๊อฟเหลือเพียงแค่ตากับยายเป็นบุคคลที่เขารักมากที่สุด แต่เมื่อเขาเรียนมัธยมตากับยายก็มาจากเขาไปอีก อ๊อฟจึงเหลือเพียงตัวคนเดียว
ชีวิตหลังจากนั้นอ๊อฟพยายามเรียนหนังสือ โดยกู้ กยศ. ทำงานส่งตัวเองเรียนด้วยอาชีพที่สุจริต จบช่างไฟฟ้า ด้วยความอนุเคราะห์ของกำนันในพื้นที่คอยให้การช่วยเหลือสนับสนุนเขา
กำนันชื่นชมเด็กหนุ่มคนนี้ เพราะมีความประพฤติดีมาตลอด แล้วความฝันของอ๊อฟก็เป็นจริง เมื่อเขาสอบติดตำรวจและได้เริ่มต้นความสุขกับการใช้ชีวิตกับภรรยา
แต่แล้วเมื่อวันวันที่ 25 เมษายนเกิดอุบัติคนใกล้ชิดของอ๊อฟบอกว่าทุกคนต่างเสียใจไม่คิดเลย ในวันที่อ๊อฟต่อสู้ชีวิตด้วยความเข้มแข็ง วันนี้อ๊อฟกำลังจะเริ่มมีความสุข เขาได้บรรจุเป็นข้าราชการตำรวจเริ่มมีครอบครัวที่น่ารักแต่แล้ว...ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ทั้งนี้ทีมข่าวได้สอบถามนายพงศกร ภูริวัฒภากร อายุ 37 ปี เป็นพี่ชายของหมู่อ๊อฟ บอกว่า ตัวเองเป็นพี่ชายของ ส.ต.ต. จิรวัฒน์ฯ ซึ่งเราทั้งคู่เป็นพี่น้องที่พลัดพรากจากกันไปนานกว่า 20 ปี ตัวเองมาทำงานในกรุงเทพมหานคร ส่วนน้องชายอาศัยอยู่ที่จังหวัดสงขลา โดยเรียนสายอาชีพด้านช่าง ส่วนพ่อกับแม่เสียชีวิตตั้งแต่เด็ก
ซึ่งตลอด 20 ปีเราทั้งคู่ก็พยายามตามหากันมาโดยตลอด จนกระทั่งเมื่อช่วงต้นปี 2566 น้องชายได้ติดต่อเข้ามาหาตัวเอง บอกว่าเป็นน้องชายและบอกข่าวดีกับเราว่าสามารถสอบติดข้าราชการตำรวจได้สำเร็จ จากก่อนหน้านี้ทำงานเป็นช่างซ่อมแอร์ แต่อาชีพที่เค้าใฝ่ฝันก็คือรับข้าราชการตำรวจให้ได้ ซึ่งเขาก็สามารถทำได้จริง ๆ
หลังจากนั้นเราทั้งคู่ก็ไปมาหาสู่และพูดคุยกันบ่อยมากขึ้น ซึ่งในช่วงเดือนมิถุนายน ปี 66 ตอนนั้นน้องจะบรรจุรับข้าราชการตำรวจแต่ไม่มีเงินที่จะไปตัดชุดเครื่องแบบตำรวจ ตัวเองจึงได้พาน้องชายไปตัดชุด
ส่วนตัวรู้สึกภาคภูมิใจในตัวน้องชายมากเพราะเขาสามารถทำในสิ่งที่ตั้งใจจนสำเร็จ ซึ่งเขาบรรจุข้าราชการตำรวจยังไม่ถึง 1 ปี ก็มาเกิดเหตุกันที่ไม่คาดคิดขึ้น
ยอมรับว่ามันเกิดขึ้นไวมาก เพราะในตอนแรกตัวเองกับน้องชายนัดกันไว้ว่าจะมาเจอกันที่กรุงเทพฯในวันที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา แต่ตัวเองก็ไม่คิดว่าจะมาเจอในสถานะแบบนี้
ทั้งนี้ แม้ว่าเราทั้งคู่จะพลัดพรากกันนานกว่า 20 ปีแต่เมื่อมาเจอกันแล้วก็รู้สึกผูกพันอย่างมาก เชื่อว่าน้องชายได้ทำหน้าที่ในฐานะข้าราชการตำรวจที่เขาตั้งใจเอาไว้ได้อย่างเต็มที่แล้ว ซึ่งน้องถือเป็นความภาคภูมิใจของทางครอบครัว
ด้าน นางสาวสุพัตรา โชติมณี ภรรยาของหมู่อ๊อฟ เล่าให้ฟังว่า ก่อนวันเกิดเหตุตนได้พูดคุยทักทายถามสารทุกข์สุกดิบกับสามีเป็นครั้งสุดท้ายในเวลาประมาณ 07.50 น. ก่อนที่สามีจะขึ้นบินเพื่อปฏิบัติภารกิจในวันดังกล่าว
ซึ่งหลังจากพูดคุยกันเสร็จในอีกไม่กี่นาทีต่อมา มีรุ่นน้องส่งข้อความมาแจ้งว่า สามีตนเป็น 1 ผู้ที่เสียชีวิตในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย โดยเมื่อทราบข่าวก็รู้สึกเสียใจ เพราะสามีเพิ่งรับราชการได้ไม่นาน
หลังจากที่พยายามสอบเข้าตำรวจอยู่หลายครั้ง จนสามารถทำสำเร็จ ก็รู้สึกภูมิใจในตัวหมู่อ๊อฟที่รับผิดชอบปฏิบัติหน้าที่จนถึงนาทีสุดท้าย