เวลา 13.49 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังวิเทศสโมสร กระทรวงการต่างประเทศ ในงานครบรอบ 25 ปี ยุวทูตความดี ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ ร่วมกับมูลนิธิยุวทูตความดี ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดขึ้นเพื่อเผยแพร่ผลงานความสำเร็จของโครงการยุวทูตความดี ปัจจุบันมีกิจกรรมหลากหลายมิติ ที่มุ่งส่งเสริมให้เยาวชนเป็นคนดี มีคุณภาพ รักชาติ รักแผ่นดิน และเป็นสื่อกลางสานสัมพันธ์ฉันมิตร เป็น "ทูตตัวน้อย" แนะนำประเทศไทย วัฒนธรรมไทย และส่งผ่านเรื่องดี ๆ ให้เยาวชนนานาชาติได้รู้จัก ชื่นชอบ และชื่นชมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น
โอกาสนี้ ทรงมีพระราชดำรัส ความว่า "โครงการยุวทูตความดีดำเนินงานมา 25 ปี ช่วยสร้างเยาวชนที่ดีมาหลายรุ่น เยาวชนที่เข้าร่วมโครงการได้รับการอบรมให้เป็นผู้มีคุณภาพ คุณธรรม จริยธรรม มีจิตสำนึกและจิตอาสา รักชาติ รักที่จะทำความดี ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ ทำให้คนทั่วไปเห็นคุณค่าของการทำดี ยุวทูตความดีเหล่านี้ เมื่อเติบใหญ่จะเป็นกำลังช่วยดูแลรักษาและพัฒนาประเทศชาติให้เจริญยั่งยืน หวังว่าผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายจะร่วมมือกัน สร้างเยาวชนคนดีให้แก่สังคมไทย และประเทศไทยสืบต่อไป"
จากนั้น ทอดพระเนตรนิทรรศการภาพวาด "ดวงรัตนแห่งการพัฒนาการศึกษาของเยาวชนไทย" ที่นักเรียนและครูสร้างสรรค์ร่วมกัน เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสมหามงคลทรงเจริญพระชนมายุ 70 พรรษา นิทรรศการ "25 ปี ยุวทูตความดี ก้าวอย่างมั่นคง สู่ความยั่งยืน" และนิทรรศการ ฐานการเรียนรู้จากหน่วยงานของกระทรวงการต่างประเทศ, สำนักงาน กปร., และสถานเอกอัครราชทูตต่างประเทศประจำประเทศไทย
กระทรวงการต่างประเทศ จัดตั้งมูลนิธิยุวทูตความดีฯ เมื่อปี 2542 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 72 พรรษา 5 ธันวาคม 2542 มุ่งพัฒนา "เยาวชน" ให้เป็นต้นกล้าความดี ผ่านโครงการและกิจกรรมที่หลากหลาย เน้นปลูกจิตสำนึก ฝึกจิตอาสา และพัฒนาโลกทัศน์ ให้เยาวชนเติบโตเป็นกำลังสำคัญของชาติ และเป็นพลังของแผ่นดิน เมื่อแรกตั้งมีโรงเรียนในเครือข่าย 76 แห่ง ปัจจุบันเพิ่มเป็น 1,100 แห่ง ครอบคลุมทุกจังหวัด นอกจากนี้ ยังมีเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงานและสถาบันต่าง ๆ ทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน กลุ่มสมาชิกอาเซียน ช่วยเปิดโลกทัศน์ และแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เพื่อก้าวไปข้างหน้าร่วมกันอย่างยั่งยืน
เวลา 15.50 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ทรงเปิดพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และทรงเปิดอาคารเจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร ในการนี้ พระราชทานของที่ระลึก แก่คณะกรรมการมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในพระราชูปถัมภ์ฯ และผู้มีจิตศรัทธาที่ร่วมสนับสนุนการจัดสร้าง
พระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สร้างขึ้น เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้จัดสร้างโรงพยาบาลคนเสียจริตขึ้นเป็นแห่งแรกในประเทศ เมื่อปี 2432 และพัฒนาเป็นสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการให้บริการด้านสุขภาพจิตอย่างเป็นระบบ
สำหรับอาคาร "เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร" สร้างขึ้นเมื่อปี 2561 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ 60 พรรษา เพื่อใช้เป็นอาคารอเนกประสงค์ สถานที่บำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช, ผู้ป่วยโรคสมองระบบประสาท ทดแทนอาคารเก่าที่ทรุดโทรม ไม่เพียงพอให้บริการบำบัดรักษาผู้ป่วยจิตเวช
ซึ่งเป็นอาคารสูง 12 ชั้น โดยงบประมาณก่อสร้าง, การปรับภูมิทัศน์, การสร้างพระบรมราชานุสาวรีย์ฯ, สถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมสระบัว เป็นเงินบริจาคของประชาชน และจากสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล ภายใต้การดำเนินงานมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จเจ้าพระยา ในพระราชูปถัมภ์ฯ และสถาบันจิตเวชศาสตร์สมเด็จเจ้าพระยา โดยได้พระราชทานนามอาคารว่า "เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร" และให้เชิญอักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. ประดิษฐานที่อาคารเพื่อความเป็นสิริมงคล
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการ "ฟื้นฟูสู่สังคม" กิจกรรมพัฒนาผู้ป่วยจิตเภท เพื่อฟื้นฟูสมรรถภาพทักษะทางอาชีพ โดยฝึกทักษะการทำงานในร้านกาแฟ ที่ร้านกาแฟ หลังคาแดง และร้านเพื่อนหลังคาแดง จากนั้นขยายงานไปยังหน่วยงานสนับสนุน ภายในสถาบันฯ นอกสถาบันฯ และภาคเอกชน ที่ร่วมสนับสนุนจ้างงานอย่างต่อเนื่อง มีนักสังคมสงเคราะห์ ฝึกทักษะทางสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้า ให้ผู้ป่วยสามารถกลับสู่สังคมได้อย่างมั่นใจ
และนิทรรศการ "ภูมิทัศน์บำบัดใจ" โดยได้ปรับภูมิทัศน์ให้เหมาะสมกับการรักษาผู้ป่วยใน ผู้ป่วยนอก บุคลาการ ญาติและผู้ที่เกี่ยวข้อง ใช้แนวคิดหลัก คือ นิเวศน์บำบัด เน้นปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมให้ผู้ป่วยจิตเวชใกล้ชิดธรรมชาติ ด้วยการเพิ่มพื้นที่สีเขียว เลือกชนิดพรรณไม้ เพื่อเยียวยาทั้งกายและใจ ผ่านสัมผัส 5 ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส ที่เหมาะสม มุ่งเน้นการรักษา และยังรู้สึกปลอดภัย และเสริมสร้างการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลทั่วไป เพื่อช่วยเตรียมพร้อมให้ผู้ป่วยสามารถกลับเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมได้อีกครั้ง
เวลา 18.03 น. เสด็จออก ณ วังสระปทุม พระราชทานพระราชวโรกาสให้ นายกลินท์ สารสิน ประธานคณะกรรมการบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด นำนายโนริอากิ ยามาชิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด และคณะผู้บริหารบริษัทฯ เฝ้าทูลละอองพระบาท ถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2568 และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายเงิน โดยเสด็จพระราชกุศลตามพระราชอัธยาศัย