วิกฤตชาวสวน ปาล์มน้ำมันตกต่ำไม่มีที่ขาย เชื่อเป็นกลไกที่บิดเบือน หลังโรงงานในจ.กระบี่ หยุดรับซื้อหมดทั้ง 10 กว่าโรงงาน
วันที่ 29 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมันบางราย เร่งตัดผลปาล์มน้ำมันที่สุกเต็มที่เพราะมีลูกร่วงหล่นจำนวนมาก นำมาส่งขายให้กับลานเทรับซื้อในชุมชน ตำบลทับปริก อำเภอเมืองกระบี่ ราคากิโลกรัมละ 4.10 บาท โดยลานประกาศรับซื้อเฉพาะลูกค้าประจำ แม้ว่าจะแจ้งปิดรับซื้อชั่วคราว ระหว่างวันที่ 29 เมษายน – วันที่ 1 พฤษภาคม เนื่องจากมีเกษตรกรนำผลปาล์มมาขายให้เป็นจำนวนมากจนเต็มลาน จึงต้องเร่งขนถ่ายใส่รถบรรทุกส่งขายให้กับโรงสกัด ระยะทางกว่า 80 -100 กิโลเมตร รถบรรทุกต้องติดคิวหน้าโรงงานระยะเวลา 1-2 วัน จึงต้องปิดรับซื้อชั่วคราว เนื่องจาก ผลปาล์มน้ำมันที่ตกค้างอยู่ในลาน ทำให้น้ำหนักลดลง เน่าเสีย ราคาโรงสกัดรับซื้อปรับลดลงต่อเนื่อง แต่ก็ยังรับซื้อสำหรับลูกค้าประจำของลานที่มีไม่กี่รายเท่านั้น
จากการสอบถามไปยังลานรับซื้อ แจ้งว่า การปิดรับซื้อในครั้งนี้ทางโรงงานในพื้นที่จังหวัดกระบี่ อ้างว่า มีผลปาล์มน้ำมันจำนวนมากไม่สามารถสกัดได้ทัน ทั้งที่ความเป็นจริงปาล์มน้ำมันไม่ได้มากนักยังสามารถสกัดได้ แต่มีการสกัดให้ช้าลงส่งผลให้ปาล์มน้ำมันต้องค้างอยู่บนรถบรรทุกที่ลานนำไปส่ง จนเกิดวิกฤติส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มายังลานรับซื้อที่ต้องไปเข้าคิวนานรอ 2-3 วันกว่าจะส่งโรงงานได้ ทำให้น้ำหนักหายไปพ่วงละเป็นตัน และส่งผลมายังเกษตรกรที่นำมาขายลานก็ต้องปรับลดราคาลง
อย่างไรก็ตามในช่วงนี้บางลานก็ยังรับซื้ออยู่เพื่อไปส่งยังโรงงานสกัดในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียง เนื่องจากโรงงานในจ.กระบี่ หยุดรับซื้อหมดทั้ง 10 กว่าโรงงาน ซึ่งถือเป็นวิกฤติของชาวสวนปาล์มอย่างมาก เพราะปาล์มสุกก็จะไม่มีที่ขายทำให้เน่าคาต้น ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในวงการปาล์มเลย อย่างมากก็แค่ราคาลดต่ำลงมาเท่านั้น แต่ก็ยังมีที่ขาย แต่ตอนนี้ ลานหยุดรับซื้อไปมากกว่าร้อยละ 90 แล้ว ส่วนสาเหตุนั้นเชื่อว่ามาจากกลไกบางอย่างที่มีการบิดเบือนทั้งจากโรงงานและเจ้าหน้าที่รัฐ
