สนามข่าว 7 สี - ผ่านมาเกินกว่า 1 เดือนแล้ว ยังมีหลาย ๆ เรื่องไม่ได้ข้อสรุป กับเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม ซ้ำจะมีปัญหาใหม่งอกเพิ่มอีก โดยเฉพาะเงินเยียวยาที่กำลังถูกตั้งคำถาม ใครควรได้เงินช่วยเหลือนี้ไป
ข้อมูลที่ได้หลังลงพื้นที่ของทีมข่าว พบมีหลายกรณีหลังจากนี้ ส่อแววว่า ถ้าอนุมัติเงินเยียวยาก้อนใหญ่จะมีปัญหาตามมาแน่ ๆ
เคสแรก สามี ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิต มีภรรยาใหม่อยู่กินหลายปี แต่ไม่จดทะเบียนสมรส หนำซ้ำผู้เสียชีวิตก็ยังไม่หย่ากับอดีตภรรยา หรือเคสที่ 2 ลูกชายชาวเมียนมาที่เสียชีวิต ข้ามประเทศมาขอรับเงินเยียวยาจากหน่วยงานรัฐ แต่ไม่ขอรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ขณะที่ ครอบครัวผู้เสียชีวิตยินดีรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนา แต่ไม่ได้เงินเยียวยา
ซึ่งเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นและแจ้งความกับตำรวจ สน.บางซื่อ ไว้แล้ว เพราะแก้ปัญหาไม่ได้ ทีมข่าวจึงสอบถามเรื่องนี้ หลังประชุมพิจารณการเยียวยาช่วยผู้ได้รับผลกระทบ ที่ไม่มีผลกับคดีอาญาและคดีแพ่ง
เบื้องต้น จะจัดตั้งกลุ่มย่อยขึ้นมาพิจารณา ประกอบด้วย ตำรวจ ดีเอสไอ สภาทนายความ และผู้แทนกิจการร่วมค้าฯ เพื่อพิสูจน์ญาติที่เหมาะสมจะได้รับ เช่น เป็นทายาทโดยธรรมหรือไม่ โดยพิจารณาจากลำดับทายาทโดยธรรม ถ้ามีคนมาอ้างหลายคนก็ต้องพิสูจน์ แต่ยืนยันถ้าของครอบครัวไหนที่ไม่มีปัญหาก็จะรีบจ่ายทันที
ตามเกณฑ์ที่ทางกิจการร่วมค้าฯ เคาะว่าจะมอบเงินให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตรายละ 1 ล้านบาท ผู้บาดเจ็บได้รายละ 200,000 บาท ในช่วงที่ขาดรายได้ และรักษาตัวจากการบาดเจ็บ ไม่รวมค่ารักษาพยาบาล ส่วนของผู้สูญหาย ก็จะได้รับเงินเกณฑ์เดียวกับผู้เสียชีวิต ส่วนการค้นหาผู้สูญหาย ยังอยู่ระหว่างค้นหาอีก 28 คน
มาที่ทางคดีที่ดีเอสไอ มีการเชิญทั้งผู้บริหาร บริษัท อิตาเลียนไทยฯ และผู้บริหาร บริษัท ไมนฮาร์ทฯ มาชี้แจงประเด็นเกี่ยวข้องกับบริษัทตนเอง โดยเฉพาะคดี "นอมินี" ที่บริษัท อิตาเลียนไทยฯ ถูกตั้งข้อสังเกตเชื่อใจอีกฝั่งได้อย่างไร
ทั้งนี้ ตัวแทนกิจการร่วมค้าฯ ยังยืนยันสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของผู้ออกแบบและผู้ควบคุมงาน กิจการร่วมค้าฯ ไม่รู้เห็นด้วย และไม่ใช่หน้าที่ของผู้รับเหมาต้องไปตรวจสอบสัญญาอื่น
ส่วนวิศวกรชุดแรก 10 คน มาแค่ 7 คน อีก 3 คน ติดต่อไม่ได้ โดยทั้งหมดมาให้การในฐานะพยาน มี 6 คน ทำงานอยู่กับ "บริษัท ว. และสหาย" และทั้งหมดยืนยันไม่ได้เป็นคนเซ็นชื่อในเอกสารการควบคุมงาน
