สนามข่าว 7 สี - คดี น้องการ์ตูน เหยื่อตีนผี ผ่านมากว่า 10 ปี เหยื่อก็ไม่เคยได้รับการเยียวยาจากคู่กรณี การรักษาน้องการ์ตูนมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก แม่ที่กลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวทำทุกทางเพื่อหาเงินรักษาลูก เมื่อคืนนี้มีประเด็นดรามาที่แอดมินเพจแม่น้องการ์ตูน โพสต์ขอรับบริจาคเงินช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลน้องการ์ตูน 300,000 บาท
เมื่อคืนนี้ แอดมินเพจโพสต์ข้อความ คุณแม่ของ "น้องการ์ตูน" ลำบาก ต้องหาเงินจ่ายค่ารักษาน้องภายในวันนี้ (30 เม.ย.) จำนวน 300,000 บาท ขอน้ำใจจากพี่ ๆ ท่านใดที่พอจะมีกำลังช่วย "ให้ยืมเงิน" จ่ายค่ารักษาน้อง แล้วให้คุณแม่ทยอยผ่อนคืนทีหลัง หากพี่ ๆ คนไหนพอช่วยได้ รบกวนทักแช็ตเพจมาหาแอดมิน มีคนเข้ามาแสดงความเห็นจำนวนมาก ทั้งให้กำลังใจ ให้กำลังทรัพย์ช่วยเหลือ
แต่กลับมีความเห็นดรามาว่า คุณเปิดรับบริจาคครั้งที่เท่าไหร่แล้ว ครั้งก่อนคุณเปิดรับบริจาคได้ยอดกว่า 7 ล้านบาท คุณยังไม่พออีกหรือ คนไทยหลายคนยังลำบากกว่าคุณมีไม่น้อย โรงพยาบาลรัฐก็มี กางบัญชีออกมาดูดีกว่า เงินในบัญชีคุณไม่ใช่น้อย ๆ หรอก
แต่ส่วนใหญ่เข้ามาให้กำลังใจ และตำหนิคอมเมนต์ก่อนหน้านี้ว่า เวลาแบบนี้ ไม่อยากช่วยก็แค่เลื่อนผ่าน คนที่ช่วยเพราะเขาเข้าใจในสิ่งที่ครอบครัวนี้โดนกระทำ เข้าใจความรักผู้หญิงที่เรียกว่าแม่ เวลานี้อยู่ในช่วงวิกฤตชีวิต ทำไมต้องมาซ้ำเติม
เพจ Drama-addict โพสต์ถึงประเด็นดรามาดังกล่าว อธิบายว่า น้องการ์ตูนเป็นผู้ป่วยติดเตียงตั้งแต่อายุน้อย ร่างกายยังเจริญเติบโต ทำให้เกิดปัญหากระดูกสันหลังคด ส่งผลต่อปอดและการหายใจ น้องเคยรักษาที่โรงพยาบาลรัฐ แอดมิดวอร์ดรวมเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวมรุนแรง จนปอดใช้งานได้ข้างเดียว จึงย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลเอกชน เพราะหมอรู้เคสน้องอยู่แล้ว
คุณแม่เคยรับบริจาคเมื่อ 7 ปีก่อน ได้เงินไปก้อนหนึ่ง ค่าใช้จ่ายการดูแลผู้ป่วยติดเตียงสูงมาก เงินบริจาคใช้ไปกับค่ารักษาน้องและคุณแม่ทำงานตลอด ตอนนี้อาการน้องหนักมาก คุณหมอคุยกับครอบครัวว่าอาการของน้องไม่ไหว ทางครอบครัวตัดสินใจจะถอดเครื่องช่วยหายใจอีกไม่กี่วัน รอให้ญาติมาดูใจ แอดมินเพจจึงโพสต์ขอรับบริจาค จ่ายเป็นค่ารักษาพยาบาลเพื่อนำน้องออกมาประกอบพิธีทางศาสนา คนที่ควรถูกตำหนิควรจะเป็นคนที่ทำ ไม่ใช่ไปว่าแม่ที่พยายามทำทุกอย่างเพื่อลูก
เช่นเดียวกับ เพจแม่น้องการ์ตูน แอดมินโพสต์ว่า กำลังใจเหล่านั้นคือ ครั้งสุดท้าย ที่จะส่งถึงน้อง จากการตัดสินใจครั้งใหญ่ในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ครอบครัวและคุณแม่น้องได้ตัดสินใจปล่อยน้องไปอย่างสงบ
