สกัดจับรถกระบะตู้ทึบลักลอบขนไอซ์ 200 กิโลกรัม

สกัดจับรถกระบะตู้ทึบลักลอบขนไอซ์ 200 กิโลกรัม

View icon 318
วันที่ 6 พ.ค. 2568 | 12.02 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจชุดสืบสวนเมืองกรุงเก่า ขยายผลรวบขบวนการลักลอบขนไอซ์ ไล่สกัดรถกระบะตู้ทึบ 2 คัน คาปั๊มน้ำมัน ยึดของกลางไอซ์ 200 กิโลกรัม บรรจุในหีบห่อภาษาจีน
       
สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 24 มี.ค.64 ตำรวจ สภ.วังน้อย รับแจ้งอุบัติเหตุรถกระบะติดตู้ทึบ พุ่งชนแบริเออร์ บริเวณจุดกลับรถ ถ.พหลโยธิน ขาออก กม.72 ต.ชะแมบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา จึงไปตรวจสอบ แต่ไม่พบผู้ขับรถ หรือคนเจ็บ แต่พบไอซ์ บรรจุอยู่ในกระสอบ 9 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 270 กิโลกรัม ตำรวจจึงได้สืบสวนขยายผลหาตัวผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง โดยทราบว่านายพงษ์ธร เป็นผู้ขับรถคันดังกล่าว จึงรวบรวมหลักฐาน ขอศาลออกหมายจับ ต่อมาตำรวจจับกุมนายพงษ์ธร ได้ในพื้นที่ จ.ระยอง

จากนั้นผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ชุดขยายผลฯ ศอ.ปส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ขยายผลหาเครือข่ายยาเสพติด ในการลำเลียงไอซ์ จนกระทั่งทราบว่ารถกระบะคันเกิดเหตุ รับยาเสพติดต่อมาจาก รถกระบะตู้ทึบ จำนวน 3 คัน ที่ขับติดตามกันไปรับไอซ์มาจากภาคอีสาน เพื่อมาส่งให้กับรถกระบะคันเกิดเหตุ บริเวณ ถ.พหลโยธิน ขาเข้า ต.ลำไทร อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตำรวจจึงเฝ้าติดตามพฤติกรรมรถกระบะตู้ทึบ ทั้ง 3 คันเรื่อยมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 พ.ค.68 ตำรวจตรวจสอบพบว่า มีรถกระบะตู้ทึบ 2 คัน ขับขี่ติดตามกันมุ่งหน้าไปภาคอีสาน และในวันที่ 3 พ.ค.68 ได้มุ่งหน้าเข้าสู่ภาคกลาง จึงเชื่อว่า รถยนต์กระบะทั้ง 2 คัน ติดตามกันไปรับยาเสพติดเพื่อมาส่งให้แก่ลูกค้า จึงได้ติดตามจนกระทั่งตำรวจ พบรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัย จอดเติมน้ำมัน ที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ริม ถ.มิตรภาพขาเข้า ต.ทับกวาง อ.แก่งคอย จ.สระบุรี ตำรวจแสดงตัว ขอตรวจค้น พบนายณัฐพล หรือนัท เป็นคนขับ และพบไอซ์ บรรจุอยู่ในกระสอบ จำนวน 7 ถุง น้ำหนักรวมประมาณ 200 กิโลกรัม ซุกซ่อนอยู่

จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ติดตามรถกระบะตู้ทึบต้องสงสัยอีกคัน ซึ่งขับนำรถยนต์คันที่ลำเลียงยาเสพติด สามารถจับกุมนายอุดม หรือกอล์ฟ คนขับเอาไว้ได้ ในชั้นจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา โดยในโทรศัพท์มือถือ ตรวจพบว่า มีการติดต่อกันในลักษณะการเฝ้าระวังตำรวจ  

การปฏิบัติการในครั้งนี้ตำรวจได้จับกุมผู้ต้องหา 2 คน ซึ่งมีการแบ่งหน้าที่กันกระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด พร้อมทั้ง ได้มีตรวจยึดทรัพย์สินจากผู้ต้องหา ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ และยานพาหนะ รวมมูลค่ากว่า 2 ล้านบาท และตำรวจชุดจับกุม จะได้มีการ ขยายผลอย่างต่อเนื่องไปสู่การจับกุมผู้ร่วมขบวนการรายอื่นมารับโทษตามกฎหมายต่อไป