สหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตร “หม่อง ชิต ตู” ผู้นำกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNA) และลูกชาย 2 คน รวมทั้งกองกำลังติดอาวุธ KNA เนื่องจากมีเกี่วข้องกับการหลอกลวงทางไซเบอร์ การค้ามนุษย์ และการลักลอบขนสินค้าข้ามพรมแดน
วันนี้ (6 พ.ค. 68) สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐ ระบุว่า “หม่อง ชิต ตู” ผู้บัญชาการกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยง (เคเอ็นเอ) เป็นบุคคลสำคัญในเครือข่ายการหลอกลวงทางไซเบอร์ที่ผิดกฎหมายที่สร้างรายได้มหาศาล ซึ่งมีเป้าหมายเป็นชาวอเมริกัน ทางสหประชาชาติ รายงานว่า ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา มีผู้คนหลายแสนคนใต้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์และยังถูกบังคับให้ทำงานในปฏิบัติการหลอกลวงดังกล่าวจากกลุ่มอาชญากรทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ทางกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในแถลงการณ์ว่า มาตราคว่ำบาตรครั้งนี้จะอายัดทรัพย์สินของสหรัฐฯ ที่ “หม่อง ชิต ตู” และลูกชายอีก 2 คน คือ “ซอว์ ทู เอ มู” และ “ซอว์ ชิต ชิต” อาจถือครอง และโดยทั่วไปแล้วจะห้ามไม่ให้ชาวอเมริกันทำธุรกิจกับพวกเขาอีกด้วย ขณะที่ก่อนหน้านี้ สหราชอาณาจักรและสหภาพยุโรป ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรต่อ “หม่อง ชิต ตู” ไปแล้วเช่นกัน
โดยสำนักงานใหญ่ของกองทัพแห่งชาติกะเหรี่ยงมีสำนักงานใหญ่ (เคเอ็นเอ) อยู่ที่ชเวกกโก บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา โดยกองกำลังติดอาวุธเหล่านี้เช่าที่พื้นที่ และดูแลรักษาความปลอดภัยให้กับพื้นที่ที่มีเหยื่อการค้ามนุษย์ถูกบังคับให้ทำงานหลอกลวงผู้คนทางออนไลน์
ทาง ไมเคิล ฟอลเคนเดอร์ รองรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ กล่าวว่า การหลอกลวงทางไซเบอร์ที่ดำเนินการโดย KNA สร้างรายได้หลายพันล้านให้กับแกนนำแก๊งอาชญากรและผู้ที่เกี่ยวข้อง ขณะเดียวกันก็ทำให้เหยื่อสูญเสียเงินออมที่หามาอย่างยากลำบากและความรู้สึกปลอดภัย
ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรหลายรอบต่อคณะรัฐประหารพม่าและแหล่งรายได้ของพวกเขา นับตั้งแต่กองทัพโค่นล้มรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งของอนางอองซานซูจี เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 ซึ่งจุดชนวนให้สงครามกลางเมืองลุกลาม และมาตรการคว่ำบาตรครั้งนี้ร์ถือเป็นมาตรการคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับเมียนมาครั้งแรกภายใต้การรับตำแหน่งของ ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา