6 พ.ค. 68 เมื่อเวลา 13.30 น. ศูนย์รับแจ้งเหตุและสั่งการ 1669 อุบลบราชธานี รับแจ้งจากพลเมืองดีมีเด็กหญิงจมน้ำบริเวณหาดคูเดื่อ ต.แจระแม อ.เมืองอุบลราชธานี จึงได้ประสานหน่วยกู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กงอุบลราชธานี หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์อุบลราชธานี เข้าทำการช่วยเหลือ
เมื่อไปถึงพบพลเมืองดีกำลังปฐมพยาบาลเด็กหญิง วัย 5 ขวบ ที่กำลังสำลักน้ำส่งต่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิศิษย์พระจี้กง เปลี่ยนถ่ายให้กู้ชีพระดับสูงของโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ส่งโรงพยาบาลเด็กโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ซึ่งอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุมากที่สุด เบื้องต้นอาการพ้นขีดอันตรายแล้ว
โดยหลังเกิดเหตุ เพจ "วารินชำราบบ้านเฮา อุบลราชธานี" ได้มีการโพสต์รูปภาพหญิงสาวหน้าตาดี พร้อมระบุข้อความชื่นชม น.ส.พรรณิพา ทีอุทิศ ซึ่งกำลังศึกษาในระดับปริญญาตรี มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี คณะนิติศาสตร์ น้องมาช่วยพ่อขายลอตเตอรี่ที่หาดคูเดื่อ ช่วย CPR น้องพลัดตกน้ำที่หาดคูเดื่อ จนฟื้นขึ้นมา ตอนนี้กู้ชีพสรรพสิทธิ นำส่ง รพ.เด็ก แล้ว สุดยอดเลย" ซึ่งหลายคนได้แชร์และชื่นชมถึงความดีเป็นจำนวนมาก
โดย น.ส.พรรณิพา ทีอุทิศ หรือ น้องปิ่น อายุ 19 ปี เล่าว่า ตอนนี้ตนเองกำลังศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี ชั้นปีที่ 2 ช่วงปิดเทอมเลยมาช่วยพ่อขายลอตเตอรี่ที่หาดคูเดื่อ
ก่อนเกิดเหตุตนเองได้ขายล็อตเตอรี่ให้กับผู้ปกครองของน้องที่จมน้ำ หลังจากนั้นไม่นานก็ได้ยินเสียงตะโกนว่าเด็กตกน้ำ ตนจึงได้รีบหาข้อมูลแล้วโทรแจ้งหน่วยกู้ภัยบอกรายละเอียดของเหตุว่า มีเด็กผู้หญิงอายุประมาณ 3 ขวบ จมน้ำที่หาดคูเดื่อขอหน่วยกู้ภัยและรถพยาบาลด่วน
จากนั้น ตนเองเข้าไปดูตรงจุดเกิดเหตุพบว่า มีคนนำตัวน้องที่จมน้ำขึ้นมาพาดบ่าแล้วเขย่าตัวน้องเพื่อจะเอาน้ำออกจากท้อง ตนเห็นว่าเป็นวิธีการที่ผิด จึงได้เข้าไปบอกให้เอาน้องนอนราบกับพื้น ก่อนจะตรวจสัญญาณชีพพบว่าชีพจรเต้นเบา ไม่หายใจ จึงได้ทำการ CPR สลับกับการเป่าปาก ไม่นานน้องอาเจียนเอาน้ำและเศษอาหารออกมาใส่ตน ซึ่งตอนนั้นตนเองไม่ได้รู้สึกรังเกียจแต่อย่างใด คิดแต่ว่าต้องช่วยน้องให้ได้
น้องปิ่น ยังบอกอีกว่า ตนเองรู้สึกดีใจและภูมิใจที่ได้ใช้ความรู้จากการอบรมฟื้นคืนชีพจากมหาวิทยาลัย และการเรียน รด. มาช่วยชีวิตเด็กเอาไว้ได้ อยากให้สถาบันการศึกษาได้มีการสอนการอบรมการฟื้นคืนชีพให้กับนักเรียน นักศึกษา เพราะวันหนึ่งอาจจะได้เอามาใช้ในชีวิตจริง
ด้าน น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 35 ปี แม่ของน้องที่จมน้ำ เผยว่า ตนเองและครอบครัวมารับประทานอาหารและเล่นน้ำแพที่เกิดเหตุ ลูกสาวที่จมน้ำจริง ๆ อายุ 5 ขวบ แต่ลูกสาวเป็นคนตัวเล็ก เมื่อถึงแพ หลานและลูกสาวก็ลงไปเล่นน้ำตามปกติ โดยน้ำบริเวณที่เล่นไม่ได้ลึกมาก ประมาณหน้าอกของหลาน แต่เมื่อเทียบกับลูกสาวที่ตัวเล็ก ถือว่าลึกพอสมควร ระหว่างนั้นลูกสาวได้เหยียบพื้นที่เป็นแอ่งทรายลึกจึงทำให้จมน้ำ
ด้วยความตกใจจึงได้ตะโกนร้องขอความช่วยเหลือ ญาติและพลเมืองดีช่วยหาจนเจอลูกสาวขึ้นมาได้ในอาการหมดสติ พลเมืองดีได้อุ้มพาดบ่า พยายามจะเอาน้ำออกจากท้อง โชคดีได้น้องปิ่นรีบเข้ามาบอกว่าให้เอาน้องนอนลงทำการ CPR จนฟื้นหลังจากนั้นรถพยาบาลก็มารับตัว
"ทั้งหมดนี้เป็นความประมาทของตนเองที่ดูแลลูกไม่ดี ม่ได้อยู่ในสายตาตลอดเวลา และไม่ได้ให้ใส่เสื้อชูชีพ ครั้งนี้ถือว่าเป็นโชคร้ายที่ยังเหลือความโชคดีอยู่บ้างที่ตนเองไม่ได้สูญเสียลูกสาวไป อยากขอฝากให้เคสนี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจผู้ปกครองอาจจะไม่โชคดีแบบนี้"
น.ส.เอ ยังบอกอีกว่า สำหรับน้องปิ่น ตนเองไม่รู้จะขอบคุณอย่างไง หากลูกสาวหายดีแล้วจะพาไปหาไปขอบคุณน้องปิ่นอีกครั้ง ตนเองต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่กู้ภัย แพทย์พยาบาลทุกท่านที่ช่วยดูแลเป็นอย่างดีแนะนำทุกอย่าง โดยเฉพาะ นพ.เพียรศักดิ์ แซ่หว่อง กุมารแพทย์โรคระบบหายใจ โรงพยาบาลเด็กสรรพสิทธิประสงค์ จ.อุบลราชธานี ท่านได้ทราบข่าวจากทางโซเชียลฯ ว่ามีเด็กจมน้ำ จึงได้สั่งการและประสานงานให้ทางโรงพยาบาลเด็กสรรพสิทธิประสงค์ เตรียมพร้อมเครื่องมือ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องควบคุมอุณหภูมิ ไว้รอรับตัวลูกสาว ทำให้ตนประทับใจทุกหน่วยที่เข้ามาช่วยลูกสาวตน ขอขอบคุณทุกท่านจริง ๆ