ห้องข่าวภาคเที่ยง - รถกู้ภัยคันหนึ่งเปิดไซเรนฝ่าไฟแดงทั้งที่ในรถไม่มีคนเจ็บ สุดท้ายไปชนคนตาย สังคมตั้งคำถามแบบทำได้หรือ ตอนนี้ตำรวจยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
เหตุการณ์เกิดขึ้นบริเวณแยกดอยติ ถนนลำปาง-เชียงใหม่ ตำบลป่าสัก อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน วงจรปิดบันทึกภาพที่รถกู้ภัยขับฝ่าไฟแดง แล้วพุ่งชนกับรถจักรยานยนต์ 2 คัน ที่กำลังขี่ข้ามแยก ซึ่งขณะนั้นเป็นสัญญาณไฟเขียว ทำให้มีคนบาดเจ็บ 2 คน เสียชีวิต 1 คน ชื่อ นางกมลรัตน์ อายุ 45 ปี ซึ่งถูกชนเข้าอย่างจัง เหตุเกิดช่วงค่ำวันที่ 6 พฤษภาคมที่ผ่านมา
แต่ที่คนเขาวิจารณ์หนักคือ รถกู้ภัยคันเกิดเหตุ ดันไม่มีผู้บาดเจ็บอยู่บนรถ ทำให้หลายคนตั้งคำถามว่า "จะรีบไปเหตุอะไรถึงกับต้องฝ่าไฟแดง จนทำให้เกิดเหตุสลด"
ที่บ้านที่จัดงานศพ หมู่ 7 ตำบลป่าสัก อำเภอเมืองลำพูน มีญาติและชาวบ้านมาช่วยกันจัดเตรียมงาน ครอบครัวอยู่ในความเศร้า และมีภาพวงจรปิดช่วงเช้าก่อนเกิดเหตุ ที่นางกมลรัตน์ ผู้เสียชีวิต ขี่รถจักรยานยนต์ออกไปจากบ้านตามปกติ นี่เป็นภาพสุดท้าย
สามีของผู้เสียชีวิต เปิดเผยด้วยน้ำตาว่า ทุกคืนเขาจะขี่รถไปรอรับภรรยาที่ปากทางเข้าบ้าน เนื่องจากบ้านเป็นทางเปลี่ยว วันเกิดเหตุรอนานผิดปกติและโทรศัพท์ก็ไม่รับสาย กระทั่งทราบข่าวร้าย
สมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยภิบัติ ลำพูน โพสต์ชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้น รู้สึกเสียใจอย่างสุดซึ้งที่มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ได้รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้หญ้าที่กำลังจะลุกลามเข้าบริษัทในนิคม รีบจัดอุปกรณ์ดับเพลิงร่วมสนับสนุนเหตุเพลิงไหม้
ทางสมาคมฯ ได้เข้าไปพูดคุยกับญาติผู้เสียชีวิต และดูแลช่วยเหลือ เรื่องการดำเนินการจัดงานจนจบพิธี และเป็นเจ้าภาพงานศพ ดูแลเรื่องน้ำดื่ม-อาหาร ส่วนของลูกสาวผู้เสียชีวิต จะรับผิดชอบค่าเทอม จนจบชั้น ม.6 สมาคมฯ ต้องกราบขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ขอโทษสังคม ขอโทษประชาชน ที่ทำให้คนในครอบครัวจากไป ทางเรายอมรับผิดทุกอย่าง
ส่วนอาสากู้ภัยที่ขับรถ ส่วนเรื่องคดีก็ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฎหมาย ทางอาสาก็จะเข้าไปขอขมาผู้เสียชีวิต และเตรียมที่จะบวชให้ด้วย
สอบถามไปที่ ญาติผู้เสียชีวิตว่าเป็นอย่างไรบ้าง ด้านญาติบอกว่า เห็นโพสต์แล้วแต่ยังไม่ได้มีการเข้ามาพูดคุยจริงจัง เรื่องการส่งเสียเรียนหนังสือ เป็นเพียงคนในสมาคมกู้ภัยพูดออกมาแต่ยังไม่ทราบรายละเอียด ส่วนเรื่องเป็นเจ้าภาพ จนถึงตอนนี้ยังไม่เห็น ตอนนี้กลัวเรื่องจะเงียบ และทำให้ผู้เสียชีวิตรวมถึงลูก จะไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม
ด้านคดี พ.ต.อ.ฐิติพล อรุณสกุล ผกก.สภ.เหมืองจี้ บอกว่า ตอนนี้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานไว้หมดแล้ว เหลือเพียงรอผลสรุปของแพทย์ ถึงจะเรียกคนขับรถกู้ภัยคันดังกล่าวมารับทราบข้อกล่าวหา ยืนยันมีการดำเนินคดีอย่างแน่นอน ไม่มีละเว้น เพราะเรื่องดังกล่าวถือว่าทำผิดกฎหมายชัดเจน และสัปดาห์หน้าจะเรียกกู้ภัยทั้งหมดในพื้นที่มาคุย เพื่อทำความเข้าใจเรื่องการใช้ไซเรนและมารยาทบนท้องถนน เพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำอีก
