ห้องข่าวภาคเที่ยง - อาการจ่ามืด คว้ามีดปาดคอตัวเองบนโรงพักที่จังหวัดตรัง เพื่อหนีความผิดที่ไปก่อเหตุชิงทองแม่ค้า ยังไม่พ้นขีดอันตราย หลังย้ายไปรักษาที่โรงพยาบาลตรัง และแพทย์ดูแลอย่างใกล้ชิด
ความคืบหน้า กรณีที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.นาโยง และ ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดตรัง ไปจับกุม ดาบตำรวจ ธีรยุทธ หรือ จ่ามืด อายุ 46 ปี ตำรวจสังกัด สภ.หาดสำราญ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดตรัง หลังขี่รถจักรยานยนต์บิกไบก์ ไปก่อเหตุชิงสร้อยคอทองคำแม่ค้าขายไส้กรอกริมถนนนาโยง-ย่านตาขาว จังหวัดตรัง เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม แต่ดาบตำรวจ ธีรยุทธ กลับวิ่งหนีขึ้นไปหน้าห้องวิทยุสื่อสาร แล้วใช้มีดปาดคอตัวเอง หนีความผิด ช่วงเย็นเมื่อวานนี้ หลังเกิดเหตุ เพื่อนตำรวจรีบนำตัวส่งโรงพยาบาลหาดสำราญ และส่งต่อที่โรงพยาบาลตรัง
ล่าสุด ดาบตำรวจธีรยุทธ์ ยังคงรักษาอยู่ในห้องหอผู้ป่วยอายุรกรรมหนัก หรือ ห้องไอซียู โรงพยาบาลตรัง และอยู่ความดูแลขอแพทย์อย่างใกล้ชิด เนื่องจากอาการยังโคม่า หลังเกิดเหตุเสียเลือดมาก และหัวใจหยุดเต้นไปแล้ว แต่แพทย์ได้รักษาจนกลับมามีลมหายใจอีกครั้ง ตอนนี้ก็ยังไม่เปิดให้เข้าเยี่ยมได้
สำหรับ ดาบตำรวจธีรยุทธ หรือ ดาบมืด ก่อนหน้านี้สังกัด สภ.ย่านตาขาว จังหวัดตรัง ก่อนจะย้ายไป สภ.หาดสำราญ ได้ 10 วัน และเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม ก็ขี่รถจักรยานยนต์บิกไบก์ ไปก่อเหตุใช้อาวุธปืนชิงสร้อยคอทองคำ น้ำหนัก 2 บาท จำนวน 1 เส้น พร้อมจี้พระ ของนางสาว พรพิมล อายุ 34 ปี แม่ค้าขายไส้กรอกอีสาน ริมถนนนาโยง-ย่านตาขาว ในพื้นที่ตำบลนาโยงเหนือ อำเภอนาโยง แล้วก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนี ซึ่งตำรวจมีหลักฐานจากภาพกล้องวงจรปิด ก่อนศาลออกหมายจับดาบตำรวจธีรยุทธ์ ขณะที่จากการสอบสวน พฤติกรรม ก็พบว่า มีปัญหาเรื่องเงินทอง และมีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด
