จับหนุ่มถ้ำมอง แอบดูหมอฟันสาว

ห้องข่าวภาคเที่ยง - ไปที่จังหวัดบุรีรัมย์ มีชายคนหนึ่งไปแอบถ้ำมองหมอฟันสาวเข้าห้องน้ำ แถมมีการทำลายหลักฐานเอาสีไปทากล้องวงจรปิดด้วย สุดท้ายไม่รอดโดนจับ

จับหนุ่มถ้ำมอง แอบดูหมอฟันสาว จ.บุรีรัมย์
นี่เป็นภาพวงจรปิดใน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน อำเภอพุทไธสง จังหวัดบุรีรัมย์ ชายคนหนึ่งใช้แปรงทาสีทาทับกล้องวงจรปิด จำนวน 2 ตัว แล้วหลบหนี โดยไม่ได้ขโมยทรัพย์สินอะไรไป เหตุการณ์เกิดขึ้นวันที่ 3 พฤษภาคม เวลา 18.40 น.

เหตุผลที่ทากล้องวงจรปิด เจ้าหน้าที่ทันตแพทย์ประจำโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล พอจะรู้คำตอบว่า ชายคนนี้ทาทำไม ก็เพราะว่าก่อนหน้านี้เคยมีคนพยายามแอบถ่าย ขณะกำลังเข้าห้องน้ำ ครั้งนั้นไหวตัวทัน จากนั้นรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยจึงซื้อกล้องวงจรปิดมาติดเองจำนวน 3 ตัว

กระทั่งคืนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงกล้องวงจรปิดแจ้งเตือนในโทรศัพท์ จึงเปิดดูพบว่า คนก่อเหตุกำลังใช้แปรงทาสีทาทับกล้องวงจรปิด จึงโทรแจ้ง ผอ.โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพชุมชน และเจ้าหน้าที่

ต่อมา ชุดสืบสวน สภ.พุทไธสง สามารถจับตัวคนก่อเหตุได้ในบ้านพัก ชื่อ นายต้น อายุ 29 ปี พร้อมของกลางชุดชั้นในหญิงสาวจำนวนหนึ่ง และ นายต้น ยังเป็นบุคคลต้องสงสัยที่บุกเข้าไปกระทำชำเราหุ่นโชว์ภายในโรงเรียนแห่งหนึ่ง ช่วงต้นเดือนมกราคมที่ผ่านมา อีกด้วย

นายต้น อ้างว่า คืนเกิดเหตุตนเองขี่รถจักรยานยนต์ไปบริเวณนั้น แล้วรถเกิดเสีย จึงเอาสีไปทากล้องวงจรปิดไว้ เพราะก่อนหน้านี้ เคยได้ยินข่าวว่ามีคนเข้าไปแอบถ่ายหมอในห้องน้ำ เลยกลัวว่าถ้ากล้องวงจรปิดจับภาพตนเองได้ คนจะเข้าใจว่าเป็นคนร้ายคนเดียวกับที่แอบถ่ายหมอ แล้วชุดชั้นในที่พบในบ้านเป็นของเมีย ส่วนเรื่องกระทำชำเราหุ่นโชว์ในโรงเรียนนั้น ตนเองไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เบื้องต้น ตำรวจนำตัว นายต้น ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง ก่อนตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ แจ้งข้อหา เสพยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมแฟตามิน) และ บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาล

อดีต "ผอ.รร." อนาจารครูสาวจนป่วยซึมเศร้า จ.ตราด
ที่จังหวัดตราด คดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเพศอีกหนึ่งคดี มีผู้เสียหายมาร้องเรียนกับทีมข่าวว่า ถูก "ผอ.โรงเรียน" แห่งหนึ่งในจังหวัดตราด กระทำอนาจาร เกือบทุกครั้งที่เข้าไปในห้องทำงานของ ผอ.โรงเรียน และมีการติดกล้องเพื่อเอาไว้แบล็กเมลไม่ให้บอกใคร อ้างว่ามีอาวุธปืน แถมอ้างสนิทกับผู้อำนาจ โดยเรื่องราวนี้เกิดขึ้นในปี 2565

จนเวลาผ่านไปกว่า 1 ปี ผู้เสียหายสภาพจิตใจย่ำแย่หนัก ป่วยโรคซึมเศร้า คิดฆ่าตัวตาย แต่สามีช่วยทัน ทำให้เรื่องราวถูกเปิดเผย จึงแจ้งสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตราด และตำรวจดำเนินคดี

สุดท้าย ศาลชั้นต้นพิพากษา ผอ.โรงเรียน กระทำผิดจริง สั่งจำคุก 160 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ก่อนประกันตัวออกมาต่อสู้ในชั้นอุทธรณ์

สุดท้ายกลายเป็นว่าคนที่สู้เพื่อตนเอง ครูสาวกลับต้องถูกลงโทษ หลัง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาฯ มีมติให้ปลดผู้เสียหายออกจากราชการ โดยให้เหตุผลว่า "คบชู้ และ ยินยอมให้ล่วงเกิน" ซึ่งผู้เสียหายเคยแจ้งให้รอคำพิพากษาจากศาล เพื่อมาพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่จนถึงตอนนี้ผู้เสียหายยังไม่ได้รับความเป็นธรรม

สุดท้าย ผู้เสียหายกลัวจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะ อดีต ผอ. คนนี้เคยรอดจากเหตุการณ์ลักษณะคล้ายกันมาแล้ว ส่วนตอนนี้ ผู้เสียหายอยู่ระหว่างรอผลอุทธรณ์คำสั่ง และฟ้องศาลปกครอง