“กรมโยธาฯ” แจงเขื่อนป้องกันตลิ่ง “บางสะพาน” พัง ของเก่า “ท้องถิ่น” ทำไว้ทรุด กระทบส่วนอื่น ต้องเร่งปรับปรุงเสริมความแข็งแรง

“กรมโยธาธิการและผังเมือง” ชี้แจงกรณีโครงการเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลฯ และโครงการฟื้นฟูบูรณะเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งฯ จ. ประจวบคีรีขันธ์ ชำรุดเสียหาย

ตามที่ปรากฏข่าวว่า เขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลโครงสร้างบริเวณบันไดทางขึ้นและแนวเขื่อนชายทะเลในพื้นที่มีความชำรุดเสียหายเป็นระยะ และโครงการเขื่อนกันคลื่นริมทะเล บริเวณถนนเลียบชายทะเลในพื้นที่ชุมชนคลองบางนางรม อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสภาพทรุดชำรุดเสียหายยับเยินต่อเนื่องยาวกว่า 200 เมตรคล้ายกัน หลังโครงการเพิ่งก่อสร้างเสร็จไม่นาน นั้น

ล่าสุด (7พ.ค.68) กรมโยธาธิการและผังเมือง ขอชี้แจงว่า โครงการที่ปรากฏในข่าว คือ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมทะเลพร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ พื้นที่ชายฝั่งทะเล ตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประกอบด้วย

1) งานก่อสร้างเขื่อนกำแพงคอนกรีตเสริมเหล็ก พร้อมงานปรับปรุงภูมิทัศน์หลังเขื่อน ความยาว 685 เมตร
2) งานปรับปรุงเสริมสันเขื่อนเดิม พร้อมปรับภูมิทัศน์หลังเขื่อน ความยาว 257 เมตร
3) งานเสริมทรายชายหาด ความยาว 1,157 เมตร

แต่จากการตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า บริเวณที่เกิดความเสียหาย มีความยาวประมาณ 65 เมตร เป็นองค์ประกอบงานส่วนที่ปรับปรุงเสริมสันเขื่อนเดิม ซึ่งเป็นเขื่อนป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งของท้องถิ่นที่ดำเนินการไว้นานแล้ว

ขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งยังไม่ถึงขั้นตอนการเติมทรายที่กำหนดไว้ ประกอบกับในช่วงเดือนมกราคม 2568 เกิดมรสุมและคลื่นลมรุนแรง กัดเซาะทรายบริเวณฐานด้านล่างของเขื่อนเดิมลึกลงไปมากกว่าปกติ ส่งผลให้โครงสร้างเขื่อนเดิมเกิดการทรุดตัวได้รับความเสียหาย  และโครงสร้างส่วนบนเสียหายตามไปด้วย

ทั้งนี้ หากมีการเติมทรายตามรูปแบบ จะช่วยลดการกัดเซาะบริเวณฐานล่างเขื่อนเดิมได้ ทั้งนี้ กรมฯ จะดำเนินการพิจารณาออกแบบและปรับแก้ไขรูปแบบปรับปรุงเขื่อนเดิม เพื่อเสริมความมั่นคงแข็งแรงให้มากยิ่งขึ้น

สำหรับพื้นที่โครงการฟื้นฟูบูรณะเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งบริเวณอ่าวประจวบคีรีขันธ์ อ.ประจวบคีรีขันธ์  ประกอบด้วย

1) งานก่อสร้างเขื่อนคอนกรีตขั้นบันได ความยาว 454 เมตร
2) งานปรับปรุงภูมิทัศน์หลังเขื่อน (ทางเท้า ทางจักรยาน และลานอเนกประสงค์)
3) งานปรับปรุง/ซ่อมแซมผิวพื้นทางเท้าบนเขื่อนเดิม ความยาว 350 เมตร

ส่วนที่เกิดความเสียหาย มีความยาวประมาณ 50 เมตร เป็นองค์ประกอบงานปรับปรุง/ซ่อมแซมผิวพื้นทางเท้าบนเขื่อนเดิม ซึ่งเขื่อนเดิมใช้งานมาแล้วเป็นระยะเวลา 17 ปี และเกิดความเสียหายตามอายุการใช้งาน ทำการปรับปรุงผิวทางเท้าบนเขื่อนเดิมแล้วเสร็จ เมื่อเดือนธันวาคม 2566

ต่อมาในช่วงเดือนมกราคม 2568 ได้เกิดเหตุมรสุมคลื่นลมรุนแรง เป็นสาเหตุให้โครงสร้างเขื่อนเดิมเกิดการทรุดตัว ส่งผลกระทบต่องานปรับปรุงผิวพื้นทางเท้าที่อยู่บนพื้นสันเขื่อนเดิมได้รับความเสียหายตามไปด้วย

ทั้งนี้ กรมฯ ได้สั่งการให้ดำเนินการออกแบบและปรับแก้ไขรูปแบบเขื่อนเดิมที่มีอายุการใช้งานมาแล้วเป็นเวลานานและได้รับความเสียหายให้มีความเหมาะสมต่อไป และจะส่งต่อให้ผู้รับจ้างดำเนินการแก้ไขตามแบบที่ปรับปรุงแล้ว ให้สามารถป้องกันคลื่นกัดเซาะชายฝั่งได้ดังเดิม