ห้องข่าวภาคเที่ยง - สองสามีภรรยา ถูกลูกพี่ลูกน้องสวมชื่อไปทำประกันชีวิตอุบัติเหตุกว่า 50 ฉบับ มูลค่ารวมกว่า 120 ล้านบาท ทิ้งปริศนาชวนให้สงสัยหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องที่สงสัยกันว่า คดีนี้จะใช่การวางแผนฆ่า เพื่อเอาเงินประกันหรือไม่
เหตุที่เรื่องนี้ชวนให้เกิดข้อสงสัยขึ้นมา ก็เพราะว่าระหว่างที่ นางพิมพ์พรรณ และนายฐากร สามีภรรยา ถูกพิพากษาจำคุก 2 ปี ในคดีฉ้อโกง ตัวอยู่ในเรือนจำ ต่อมาหลังพ้นโทษ ลูกพี่ลูกน้องที่เป็นคนชวนทำธุรกิจปล่อยเงินกู้ จู่ ๆ ก็เข้ามาทำดีด้วย
จนมาถึงช่วงวันเกิดเหตุ ปี 2565 ที่ได้ไปกินข้าวกับ "นายบอย" คนที่จะทำงานรับจำนำรถด้วยกัน คะยั้นคะยอว่าจะขับรถตามไปส่ง แต่หลังจากที่ "นายโต้ง" ขี่รถไปได้ประมาณ 8 กิโลเมตร ก็เกิดอุบัติเหตุขึ้น โดยไม่รู้ว่าใครชน
ดีว่าเหตุการณ์นี้ นายโต้งรอดชีวิตมาได้ หลังจากนั้นก็ได้คุยกับภรรยาว่าควรทำประกันชีวิต เผื่อเป็นอะไรไปลูก ๆ จะได้ไม่ลำบาก แต่ปรากฏว่าหลังติดต่อตัวแทนประกัน แล้วใส่ข้อมูลส่วนตัวเข้าไป กลับพบว่าทั้งสองคนมีการทำประกันชีวิตเอาไว้หลายฉบับมูลค่าความคุ้มครองรวมกว่า 100 ล้านบาท ทั้งที่ไม่รู้เรื่อง
และที่เป็นหลักฐานชัดเจนที่สุด คือแช็ตข้อความที่ นางพิมพ์พรรณ ได้ไปเห็นจากลูกพี่ลูกน้อง ระหว่างที่แช็ตมาปรับทุกข์เรื่องสามี แล้วมีอยู่คำหนึ่งที่สามีของลูกพี่ลูกน้องพูดว่า "อาจเป็นเวรกรรมที่ไปสั่งฆ่าไอ้โต้ง เพราะมันไม่รอชาติหน้า" จึงเริ่มเอะใจและปะติดปะต่อเรื่องทั้งหมดเข้าด้วยกัน ก่อนที่เธอจะไปร้องขอให้ "มูลนิธิเป็นหนึ่ง" ช่วยเหลือ
ทีมข่าวได้เข้าไปพูดคุยกับ นายทรงพล สดใส ทนายความ ที่รับว่าความให้กับสามีภรรยาคู่นี้ ตั้งข้อสงสัยเรื่องการทำกรมธรรม์ประกันชีวิต ว่าจะเป็นไปได้แค่ไหนที่เวลาคนทำประกัน แล้วไม่รู้เลยว่าคนที่รับผลประโยชน์คือใคร แต่เท่าที่มีข้อมูล คดีนี้มีคนเกี่ยวข้องไม่น้อยกว่า 7 คน รวมถึงคนที่ขับรถชน ที่ทราบว่าเป็นตำรวจชั้นประทวน ด้วย
อย่างที่ทนายของทั้ง 2 คน บอกไป ว่าคดีนี้ไม่ธรรมดา มีคนอยู่เบื้องหลังที่น่าจะรวยมาก มีตัวละคร 7-8 คนเกี่ยวข้อง มีการวางแผนจะเอาชีวิต จึงเป็นเหตุให้ "ต้นอ้อ" มูลนิธิเป็นหนึ่ง พาผู้เสียหายไปร้องขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบฯ เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับคนที่สวมสิทธิ์ทำประกันชีวิตวงเงิน 120 ล้านบาท และดำเนินคดีกับคนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ทัังหมดด้วย ซึ่งตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการให้ปากคำกับตำรวจ