ตำรวจเห็นใจคนเป็นพ่อ แต่ทำผิดต้องได้รับโทษ ลูกชายตกเป็นผู้ต้องหาผลิตแบงก์ปลอม ร่ำไห้โทรศัพท์ขอโทษพ่อ

View icon 239
วันที่ 11 พ.ค. 2568 | 18.30 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
ตำรวจเห็นใจคนเป็นพ่อ แต่ทำผิดต้องได้รับโทษ ลูกชายตกเป็นผู้ต้องหาผลิตแบงก์ปลอม ร่ำไห้โทรศัพท์ขอโทษพ่อ หัวอกคนเป็นพ่อไม่ว่า มีแต่ให้กำลังใจ ทำผิดต้องยอมรับ ให้อภัยได้เสมอ เริ่มต้นใหม่ รอวันลูกกลับบ้าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในโลกออนไลน์มีการเผยแพร่เรื่องราวที่น่าเห็นใจ แต่ต้องดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ของคนที่หลงผิด ถูกตำรวจจับดำเนินคดีต้องติดคุก คนที่รักและห่วงใย เสียใจกับเรามากที่สุด ก็คือคนในครอบครัว ยิ่งแล้วคือ พ่อ แม่ ที่ให้อภัยลูกได้เสมอ แม้ลูกจะทำผิดขนาดไหนก็ตาม ไม่ดุด่า มีแต่ให้กำลังใจ และความห่วงใย

เมื่อมี ร.ต.อ.หญิง ศิราณี บัวพันธ์ หรือ “ผู้กองอุ้ม” รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.วชิรบารมี จ.พิจิตร ซึ่งเป็นผู้ใช้ TikTok ชื่อ “siranee_aum” หรือ “ผู้กองอุ้ม สภ.วชิรบารมี” โพสต์คลิปวิดีโอพร้อมแคปชันว่า “จะมีกี่คนที่รักเรา ในวันที่เราไม่น่ารัก” ซึ่งผู้กองอุ้มเป็นคนทำสำนวนคดีของหนุ่มวัย 22 ปี กับแฟนสาว ถูกจับกุมฐานผลิตแบงก์ปลอม เป็นฉบับละ 500 และ 100 บาท โดยศึกษาจากยูทูบ ทำได้แนบเนียน เอามาใช้ในชีวิตประจำวัน ตระเวนท่องเที่ยวและใช้ไปแล้วหลายจังหวัด ตั้งแต่คำชะโนด จ.อุดรธานี กระทั่งมาที่บึงสีไฟ จ.พิจิตร และกำลังจะเดินทางไปต่อที่ จ.สุโขทัย แต่ถูกจับได้คาด่านตำรวจ สภ.วชิรบารมี จึงถูกควบคุมตัวมาที่ สภ.วชิรบารมี

ผู้กองอุ้ม เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาน่าจะมีปัญหากับครอบครัว จึงได้แยกออกมาอยู่กับแฟนสาวตามลำพัง และไม่ได้ติดต่อกับทางบ้าน จึงไม่มีเบอร์โทรศัพท์ติอต่อ พอถามว่าจะคุยกับแม่หรือไม่ ทางผู้ต้องหาบอกว่าไม่ต้องการคุยกับแม่ ต้องการคุยกับพ่อเท่านั้น แต่ไม่มีเบอร์โทรศัพท์เพื่อติดต่อ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางพ่อของผู้ต้องหาได้ติดต่อกับตน จึงได้ติดต่อให้ผู้ต้องหาได้คุยกับพ่อ ก่อนร่ำไห้โทรศัพท์สำนึกผิดขอโทษพ่อ ขอโทษที่ทำให้ลำบากใจ ขอโทษที่ทำให้พ่อร้องไห้ ซึ่งทั้งคู่ร้องไห้ทั้งพ่อกับลูกในระหว่างที่โทรศัพท์คุยกัน ขณะที่ผู้เป็นพ่อบอกว่าทำผิดก็ต้องยอมรับ มันแก้ไขอะไรไม่ได้แล้ว พ่อจะรอวันที่ลูกได้กลับบ้าน และจะไปเยี่ยมบ่อย ๆ ส่วนลูกที่เป็นผู้ต้องหาก็บอกว่าไม่ต้องมาบ่อยก็ได้ นาน ๆ มาทีก็ได้ เพราะมันต้องเดินทางไกล มีค่าใช้จ่ายเยอะ

ผู้กองอุ้มบอกว่า นาทีนั้นรู้สึกเห็นใจและสงสารคนเป็นพ่อ และเจอมาหลายคดี เวลาหลงผิด ทำผิดถูกจับ คนที่คอยห่างใย เสียใจ คอยช่วยเหลือ ก็คือคนในครอบครัว โดยเฉพาะพ่อแม่ อยากให้เป็นอุทาหรณ์ให้กับหลาย ๆ คนที่กำลังหลงผิด ทำผิดต่าง ๆ ห่วงเพื่อน ห่วงแฟน อยากให้มีสติ คิดถึงหน้าพ่อแม่ก่อนจะทำอะไรลงไป ซึ่งคดีการปลอมเงินตรา ปลอมแปลงธบัตรมีอัตราโทษสูง จำคุกสูงสุดตลอดชีวิต หรือจำคุกตั้งแต่ 10 ปี แต่ไม่เกิน 20 ปี หรือทั้งจำทั้งปรับ เนื่องจากเป็นเรื่องเกี่ยวกับความมั่นคง และการฟอกเงิน

สำหรับเรื่องราวครั้งนี้ เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา ตอนนี้ผู้ต้องหาถูกนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพิจิตรเรียบร้อยแล้ว ซึ่งถูกดำเนินคดีพร้อมกับแฟนสาวด้วย แม้จะออกรับแทนว่าทำผิดเพียงคนเดียว ไม่อยากให้แฟนสาวต้องถูกดำเนินคดีด้วย แต่ทั้งคู่ได้ร่วมกันใช้แบงก์ปลอม ส่วนผู้เป็นพ่อของผู้ต้องหาได้เดินทางจาก จ.ชลบุรี เพื่อมาดำเนินการขอประกันตัวในชั้นศาล ผิดก็ว่าไปตามผิด แต่คนเป็นพ่อให้อภัยลูกได้เสมอ บอกให้ลูกกลับตัวกลับใจ และรอวันที่ลูกจะได้กลับบ้าน