จากเด็กน้อยที่เก็บมาเลี้ยง สู่เด็กหนุ่มเกรี้ยวกราด! ร้องจัดการหลานชายวัย 17 ปี หลังลูกชายนำมาเลี้ยงตั้งแต่เด็กน้อย รักเหมือนลูกเหมือนหลานแท้ ๆ แต่พอโตขึ้นกลับเปลี่ยนเป็นคนละคน "ชอบอาละวาด ทำร้ายร่างกาย ไถเงินคนในบ้าน" จนสุดจะทน
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กคนหนึ่งได้นำเรื่องราวออกมาร้องเรียน เพจ "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6" หลังเกิดเหตุเยาวชนชาย อายุ 17 ปี ซึ่งเป็นเด็กที่บ้านหลังนี้เก็บมาเลี้ยงตั้งแต่เด็ก แต่เมื่อโตมาเริ่มมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง และยังติดน้ำกระท่อม กัญชา อย่างหนัก ทำให้มีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไป ทั้งยังมีพฤติกรรมข่มขู่รีดไถ่เงินทุกวั ถ้าไม่ได้เงินตามจำนวนที่ต้องการ ก็จะทำร้ายร่างกายคนในบ้าน พังบ้าน ทุบรถจนกระจกแตกรอบคัน เตะต่อยพ่อ ตีเด็ก ขโมยมอเตอร์ไซค์ ขโมยโทรศัพท์มือถือไปขาย
ที่ผ่านมาเคยแจ้งตำรวจ สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ไปแล้วหลายครั้ง ทั้งข้อหา บุกรุก, ทำร้ายร่างกาย, และขโมยของ แต่ตำรวจก็ทำได้แค่ระงับเหตุ ไม่สามารถจับไปดำเนินคดีอะไรได้ เพราะตำรวจบอกว่า เป็นเยาวชน และบางครั้งก็บอกว่า เหตุยังไม่เกิด
ล่าสุดช่วงบ่ายวันนี้ (12 พ.ค. 68) ทีมข่าวลงพื้นที่บ้านเกิดเหตุ ภายในซอยโรงแรมแห่งหนึ่ง ในพื้นที่ ต.สุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบเป็นบ้านชั้นเดียว หน้าบ้านมีเสื้อผ้าแขวนตากเต็มไปหมด เนื่องจากว่า เจ้าของบ้านมีอาชีพขายเสื้อมือ 2 ขณะที่ในบ้าน พบมีข้าวของพังเสียหายหลายอย่าง และในห้องนอนของเยาวชน 17 ปี ที่ก่อเหตุ ก็มีทั้งกัญชา , อุปกรณ์เสพกัญชา , และน้ำกระท่อม
โดยนายพาน อายุ 65 ปี เจ้าของบ้าน เล่าว่า เยาวชนอายุ 17 ปี ที่ก่อเหตุ ชื่อนายจี เป็นเด็กที่ลูกชายคนเล็กของตัวเอง เก็บเอามาเลี้ยงไว้ตั้งแต่เป็นทารกวัย 8 เดือน โดยรับมาเลี้ยงด้วยความสงสาร เพราะแม่เด็กเป็นสาวคาราโอเกะ ไม่มีเวลาเลี้ยงดู ทำให้เด็กอยู่ในสภาพถูกทิ้งขว้าง
นายพาน บอกว่า เมื่อลูกชายรับเด็กคนนี้เข้ามาเลี้ยงไว้ในบ้าน ตัวเองกับภรรยาก็ช่วยกันดูแลเป็นอย่างดี เหมือนเป็นลูกหลานแท้ ๆ อยากกินอะไร อยากได้อะไร ก็ซื้อให้ แล้วยังส่งให้เรียนหนังสือด้วย แต่เจ้าตัวก็เรียนได้ถึงชั้น ป.5 เท่านั้น เพราะเกิดมีปัญหาในโรงเรียน จึงต้องลาออกมา จากนั้นก็ใช้ชีวิตเที่ยวเล่นไปวัน ๆ ไม่ได้กลับไปเรียนต่อ และไม่ได้หางานทำ
ซึ่งหลังจากที่นายจี ลาออกจากโรงเรียน ก็เริ่มมีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าวกับทุกคนในครอบครัว แม้กระทั่งลูกชายของตัวเองที่เก็บเอานายจี มาเลี้ยง จากนั้นพอลูกชายเสียชีวิต ด้วยโรคโควิด นายจี ก็หันมาทำร้ายตนเองกับภรรยา ล่าสุดก็ได้ถีบตนตกจากมอเตอร์ไซค์บาดเจ็บ โดยเฉพาะเวลาที่มาขอเงินแล้วไม่ได้ ขณะที่ นายจี ยังขนเอาข้าวของในบ้านไปขายจนหมด แม้กระทั่งรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ทำมาหากิน ซึ่งยอมรับว่า ตอนนี้ครอบครัวไม่ไหวกับพฤติกรรมของนายจี และกลัวว่าคนในครอบครัวจะเกิดอันตราย จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือ
นายพาน ยังบอกอีกว่า สาเหตุที่นายจี มีพฤติกรรมรุนแรงก้าวร้าว ตนเองไม่ทราบว่าเกิดจากสาเหตุใด แต่ที่ผ่านมานายจี เคยพูดขู่ทำนองว่า เพราะพวกมึงเอากูมาถึงเป็นแบบนี้ ซึ่งก็ไม่รู้ว่านายจี ไม่พอใจที่เขาต้องพรากกับแม่ของเขาตั้งแต่เล็ก ๆ หรือไม่
ด้าน น.ส.ณพรรษวรรณ อายุ 40 ปี ลูกสาวนายพาน เจ้าของบ้าน เล่าว่า ตนเองเป็นคนส่งเรื่องไปขอความช่วยเหลือจากเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ part 6 เพราะสุดจะทนกับพฤติกรรมของนายจี ที่น้องชายเอามาเลี้ยงไว้ โดยก่อนหน้านี้เคยแจ้งตำรวจให้เข้ามาดำเนินการหลายครั้ง แต่ก็ทำได้เพียงมาระงับเหตุ หรือ เอาตัวไปควบคุมไม่กี่ชั่วโมง แล้วก็ปล่อยออกมา ซึ่งนายจี ก็ยังคงมีพฤติกรรมเดิม ๆ คือ ข่มขู่ขอเงินจากพ่อแม่ ถ้าไม่ได้ก็จะอาละวาดทำลายข้าวของ ก้าวร้าวขึ้นทุกวัน ตักเตือนก็ไม่ฟัง ซ้ำยังขู่จะเอาปืนมายิงหากไปยุ่งวุ่นวาย
มีพฤติกรรมข่มขู่รีดไถเงินคนในครอบครัว และเท่าที่ทราบนายจี มีพฤติกรรมเสพกัญชาและกินน้ำกระท่อม แต่ไม่มั่นใจว่ายุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดอื่น ๆ ด้วยหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ ก็อยากให้ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครราชสีมา เข้ามาช่วยเหลือ นำนายจี ไปดูแล เพราะที่ผ่านมา ครอบครัวของตัวเองก็เคยให้เงินนายจี เดินทางกลับไปอยู่กับแม่ที่แท้จริงของเขาแล้ว แต่สุดท้ายก็ยังกลับมาอีกจนได้ ซึ่งก็ยืนยันว่า ที่ผ่านมา พ่อแม่ของตนเองเลี้ยงดูแลนายจี มาด้วยความรัก และไม่เคยแบ่งแยก
เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือ แต่ก็ไม่สามารถจะดำเนินการแก้ไขอะไรได้ ไม่สามารถเอาผิดได้เนื่องจากยังเป็นเยาวชนที่มีกฎหมายคุ้มครอง จนไม่สามารถแก้ไขพฤติกรรมเลว ๆ เช่นนี้ได้ จนโทรแจ้งตำรวจทุกวัน เจ้าหน้าที่นำตัวไป ตอนเย็นก็กลับมาเหมือนเดิมวนซ้ำอยู่เช่นนี้ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยรับเยาวชนคนนี้ไปดูแล หรือ ช่วยหาทางแก้ไขต่อไป
ต่อมา ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.โพธิ์กลาง จ.นครราชสีมา ได้เข้าควบคุมตัว นายจี ที่บ้านหลังเกิดเหตุ เพื่อพาไปสงบสติอารมณ์ หลังอาละวาดใส่คนในบ้าน โดยระหว่างที่ตำรวจเข้าควบคุมตัว นายจี ก็ไม่ได้มีท่าทีขัดขืน หรือ ฉุนเฉียว และยอมที่จะขึ้นรถไปกับตำรวจโดยดี
ทั้งนี้ ก่อนที่ตำรวจจะเข้าควบคุมตัวนายจี ไปสงบสติอารมณ์นั้นนายจี ได้เดินวนเวียนอยู้ในบ้าน และได้ติดต่อไปหารุ่นพี่คนนึง เพื่อขอยืมปืน ระบุว่า “เอาปืนมาให้ยืมหน่อย ผมมีเรื่อง”