คุม ไอ้เตี้ย ถึงเมืองคอน ปฏิเสธทำแผน หวั่นถูกญาติยายนิลรุมประชาทัณฑ์

คุม ไอ้เตี้ย ถึงเมืองคอน ปฏิเสธทำแผน หวั่นถูกญาติยายนิลรุมประชาทัณฑ์

View icon 155
วันที่ 14 พ.ค. 2568 | 08.27 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
คุม “ไอ้เตี้ย” ถึงเมืองคอน ปฏิเสธทำแผน หวั่นถูกญาติยายนิลรุมประชาทัณฑ์ อ้างทำไปเพราะอยากได้เงินแค่ 1 หมื่น ตัดสินใจก่อเหตุกะทันหัน เพราะเห็นยายนิลสวมทองเลยทำไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ

เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 13 พ.ค.2568 ที่สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 ได้คุมตัวนายเจริญ หรือ ไอ้เตี้ย อายุ 55 ปี วินจักรยานยนต์รับจ้างโหด ผู้ต้องหาโหดฆ่ารัดคอยายหนูนิล หรือ ยายนิล อายุ 89 ปี ก่อนชิงทรัพย์ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท , แหวนทองคำ 2 สลึง 1 วง เงินสด 10,000 บาท แล้วนำศพยายนิลยัดใส่กระสอบปุ๋ยขนาดใหญ่ โยนทิ้งพงหญ้าป่าละเมาะ ริมถนนสายเทิดพระเกียรติ ม.5 ต.ปากนคร อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 9 พ.ค. และพบศพเมื่อบ่ายวันที่ 12 พ.ค. เสียชีวิตมาแล้ว4วัน และตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 ได้ติดตามจับกุมนายเจริญ หรือ เตี้ย ได้ที่บ้านญาติ ใน อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อเช้าวันที่ 13 พ.ค. นั้น

โดยเมื่อกำลังตำรวจชุดสืบสวนภาค 8 คุมนายเตี้ย มาถึง สภ.เมืองนครศรีธรรมราช มีกำลังตำรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบจำนวนกว่า 10 นาย คอยคุ้มกันบริเวณหน้าโรงพักอย่างหนาแน่น เพราะหวั่นเกรงว่าญาติจะมารุมประชาทัณฑ์ได้ โดยเมื่อตำรวจคุมตัวนายเตี้ยมาถึงสภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยพบว่านายเตี้ยได้มีการสวมหมวกกันน็อกตลอดเวลา ซึ่งมีกองทัพผู้สื่อข่าวจากหลายช่องได้แห่เข้ารุมสัมภาษณ์นายเตี้ยหลายคำถาม แต่นายเตี้ยกลับปิดปากเงียบไม่ยอมพูดจาอะไร

ก่อนตำรวจคุมตัวนายเตี้ย ขึ้นไปห้องประชุมชั้น 2 สภ.เมืองนครศรีธรรมราช โดยมี พล.ต.ต.พรชัย ขจรกลิ่น รอง ผบช.ภ.8 นั่งรอสอบสวนปากคำ ในเบื้องต้นอยู่นานประมาณ 15 นาที ก่อนอนุญาตให้สื่อมวลชนทุกช่องเข้าไปสัมภาษณ์นายเตี้ย โดยมีการนำของกลางสร้อยคอทองคำ ของกลางหนัก 5 บาท ของยายนิลฯ เงินสดที่เหลืออีกกว่า 1 แสนบาท , สร้อยคอทองคำหนัก 2 สลึง 2 เส้น หมวกกันน็อก ชุดเสื้อผ้าที่ใส่วันเกิดเหตุและโทรศัพท์มือถืออีก 2 เครื่อง มาวางบนโต๊ะแถลงข่าวด้วย

โดยนายเตี้ย เปิดปากรับสารภาพอีกครั้ง ทำไปเพราะอยากได้เงินมาใช้หนี้ ที่ยืมเจ้าหนี้มาจำนวน 1 หมื่นกว่าบาท และตั้งใจว่า เงินที่เหลือก็จะส่งไปให้ลูกที่อยู่ต่างจังหวัด โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนไม่ได้คิดวางแผนมาก่อนทำไป เพราะอารมณ์ชั่ววูบ อยากได้เงินจากยายนิลฯ ผู้ตาย โดยวันเกิดเหตุตนออกอุบายว่า จะขอพายายนิลไปทำธุระที่บริเวณที่ก่อเหตุ เนื่องจากเป็นป่าละเมาะรกทึบ ไม่มีผู้คน เมื่อไปถึงยายนิลฯตกใจ และรู้ตัวว่าถูกหลอก ก่อนตนผลักยายนิลให้ล้มลงแล้วได้ใช้เชือกฟางรัดคอยายนิลจนแน่น และตายคามือ แล้วนำศพใส่กระสอบปุ๋ยที่หาได้บริเวณนั้น เนื่องจากมีกองขยะอยู่ด้วย แล้วลากศพที่ใส่กระสอบปุ๋ยไปโยนทิ้งในพงหญ้าป่าละเมาะ ก่อนชิงทอง และเงินสดมูลค่า 2.5 แสนบาท ขี่รถจยย.หลบหนีออกจากนครศรีธรรมราช ไปหาญาติที่ อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี แล้วนำทองไปขายได้เงินมา 2 แสนบาท แบ่งซื้อสร้อยทองเส้นใหม่ หนัก 2 สลึง 2 เส้น และใช้จ่ายอื่นๆทั้งค่าอาหารและที่พัก เหลือเงินติดกระเป๋า 1 แสนกว่าบาท จนมาถูกจับกุมในเช้าวันนี้

ตนยอมรับผิดและขอโทษญาติของยายนิลทุกคนด้วย ที่ก่อเหตุไปแบบไม่ได้ตั้งใจ เพราะอยากได้เงิน โดยไม่ได้คิดอะไรคิด แต่อยากจะได้เงินอย่างเดียว ต้องขอโทษทุกคนด้วย จากนั้นนายเตี้ยก้มหน้าร่ำไห้ทันที และกล่าวตอนท้ายว่า ขอทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เพราะกลัวญาติยายนิลรุมประชาทัณฑ์ เนื่องจากยังโกรธแค้นตนอยู่

พล.ต.ต.พรชัย ได้กล่าวทางตำรวจมั่นใจในพยานหลักฐานและผู้ต้องหารับสารภาพ สามารถดำเนินคดีผู้ต้องหาได้อย่างแน่นอน ซึ่งทางตำรวจจะเร่งทำการสอบสวนปากคำและส่งฝากขังในวันพรุ่งนี้ต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง