จากกรณีมีผู้ใช้เฟซบุ๊ก ชื่อ “วรรณี พิศนอก” ได้โพสต์รูปน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ พร้อมกับรายละเอียดว่า “อุโมงค์ลอดทางรถไฟ หมู่บ้านออมสิน ข้ามไปถนนมิตรภาพ ทางข้ามทางรถไฟบ้านตลาด และเขตหมู่บ้านหนองกระดังงาหนักกว่าทุกปีครับ 4 วันแล้ว ยังไม่มีหน่วยงานไหนเข้ามารับผิดชอบ“
ล่าสุดวันนี้ (14 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่บริเวณอุโมงค์ทางลอดทางรถไฟ บ้านหนองกระดังงา ต.จอหอ อ.เมืองนครราชสีมา จ.นครราชสีมา ซึ่งพบว่าเจ้าหน้าที่จากการรถไฟแห่งประเทศไทย กำลังเร่งสูบน้ำออกจากอุโมงค์ทางลอดดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จาก ปภ.จังหวัด , ศูนย์ดำรงธรรม , องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น รวมไปถึงประชาชน ได้ร่วมพูดคุยหารือปัญหาและแนวทางการแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น
จากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ของการรถไฟฯ ทราบว่า สาเหตุที่ทำให้น้ำท่วมอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวมาจากเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติไม่ทำงาน เพราะมีโจรลักขโมยสายไฟที่ต่อเข้ากับเครื่องสูบน้ำ จึงทำให้ในช่วงที่มีฝนตกหนักที่ผ่านมาเครื่องสูบน้ำดังกล่าวไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ จึงทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมอุโมงค์ทางลอด ซึ่งห่างไปไม่ไกลจากอุโมงค์ฯ บริเวณตู้ไฟที่อยู่ติดกับรางรถไฟ ได้พบหลักฐานเป็นเศษเปลือกสายไฟวางกองอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งคาดว่าหัวขโมยได้ขโมยตัดสายไฟเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติดังกล่าว แล้วนำสายไฟมายังตู้ไฟจุดนี้ ก่อนจะปอกสายไฟเพื่อลอกดึงเอาทองแดงภายในสายไฟไปขาย
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ยังบอกอีกว่า ในพื้นที่ที่รับผิดชอบของการรถไฟในเขต อ.เมืองนครราชสีมา ได้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ มาแล้ว 7 ครั้ง ไม่ใช่แค่อุโมงค์ทางลอดรถไฟเท่านั้น แต่สายไฟที่อยู่บริเวณใต้สะพานกลับรถ ก็ยังถูกขโมยสายไฟไปปอกเอาทองแดงไปขายด้วย แม้ว่าสายไฟที่ใช้กับเครื่องสูบน้ำอัตโนมัติจะถูกฝังอยู่ใต้ดิน แต่หัวขโมยก็ยังสามารถขโมยเอาไปได้ ด้วยการตัดหัวตัดท้ายสายไฟ พร้อมกับใช้ไม้ม้วนดึงสายไฟออกมาจากท่อที่ถูกฝังอยู่ใต้ดิน ซึ่งหลังจากนี้ จะมีการประชุมหารือแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวต่อไป
ด้าน นายสงวน แป้นพะเนาว์ ชาวบ้านหนองกระดังงา หมู่ 15 บอกว่า ตนและชาวบ้านที่อาศัยอยู่ในบริเวณนี้ได้รับความเดือดร้อนจากสาเหตุน้ำท่วมอุโมงค์ทางรอดทางรถไฟบ้านหนองกระดังงา เนื่องจากอุโมงค์ทางลอดดังกล่าวเป็นเส้นทางที่ชาวบ้านใช้สัญจรเป็นจำนวนมากทุกวัน แต่พอเกิดเหตุน้ำท่วมอุโมงค์ขึ้นทำให้ชาวบ้านต้องไปใช้อีกเส้นทางหนึ่งเพื่อกลับรถ ซึ่งเป็นระยะทางกว่า 1 กิโลเมตร ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก แต่วันนี้ก็รู้สึกดีใจที่มีหน่วยงานหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่มาช่วยเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว