อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ปมทักษิณ ชั้น 14 ยันไม่เคยพูดคำว่า “ผู้ป่วยวิกฤต”

อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ปมทักษิณ ชั้น 14 ยันไม่เคยพูดคำว่า “ผู้ป่วยวิกฤต”

View icon 292
วันที่ 14 พ.ค. 2568 | 13.55 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
มาอีกหนึ่ง! อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ ส่งทนายยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม สธ. ปมทักษิณ ชั้น 14 ยัน ไม่ใช่ผู้วินิจฉัยโรค และไม่เคยพูดคำว่า “ผู้ป่วยวิกฤต” แค่แถลงข่าวตามความรู้ทางการแพทย์ ไม่เคยเซ็นเอกสารการรักษา

วันนี้ (14 พ.ค.68) นายสุรินทร์ สู่สวัสดิ์ ทนายความ ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท. ซึ่งเป็นอดีตนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อกระทรวงสาธารณสุข กรณี ผลการลงมติของแพทยสภาสั่งพักใบประกอบวิชาชีพ คดีจริยธรรมที่เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ ยืนยันว่ามีหลักฐานหักล้างข้อมูลมติแพทยสภาได้ โดยมี นายกองตรี ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข รับหนังสือ

เบื้องต้น นายกองตรี ธนกฤต ได้พูดคุยเป็นการส่วนตัวทางโทรศัพท์กับ พล.ต.ท.คนดังกล่าวนานกว่า 1 ชั่วโมง โดย พล.ต.ท. เล่าว่า ทราบเรื่องจากสื่อมวลชน แต่ยังไม่ได้รับหนังสือโดยตรงจากแพทยสภา ซึ่งมีอยู่ 8 ประเด็นที่สร้างความไม่สบายใจ โดยยืนยันไม่เคยพูดคำว่า “ผู้ป่วยวิกฤต” และ พล.ต.ท.เป็นแค่ผู้บังคับบัญชา ไม่ได้เป็นผู้วินิจฉัยโรค ซึ่งการแถลงก่อนหน้านี้เป็นเพียงพูดตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และอ่านผลการรักษาจากผู้วินิจฉัยโรคต่อสื่อมวลชน สิ่งที่ได้รับมาตอนนี้เหมือนโทษประหารชีวิต ทำให้เสียเกียรติและศักดิ์ศรีแบบไม่ได้รับความเป็นธรรม อย่างไรก็ตาม คำว่าผู้ป่วยวิกฤต ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้วินิจฉัย

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า หลังจากรับเอกสารร้องเรียนจะตั้งคณะกรรมการขึ้นมาอีกชุด เพื่อตรวจสอบ ตามกรอบเวลาที่กำหนดเดิมภายใน 15 วัน นับเป็นแพทย์ 2 ใน 3 คน ที่ออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม ส่วนแพทย์อีกท่านที่ถูกลงโทษยังไม่มีการติดต่อมา คาดว่าอาจจะมีการติดต่อมาในภายหลัง ทั้งนี้ หากหนังสือคำสั่งจากแพทยสภามาถึงกระทรวงสาธารณสุขแล้ว จะมีการพิจารณาหลักฐานของทุกฝ่ายร่วมกัน เพื่อหาข้อสรุปที่เป็นธรรมที่สุด รวมถึงต้องมีการตีความว่าการให้ข่าวเกี่ยวข้องกับจรรยาบรรณวิชาชีพหรือไม่ และมีความร้ายแรงอย่างไร แต่หากคำสั่งของแพทยสภาไม่ปรากฏชื่อผู้ที่มาร้องเรียนนั้น ก็จะพิจารณาตามปกติ ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการทุกอย่างตรงไปตรงมา ไม่มีลับลมคมในอย่างแน่นอน พร้อมเอาวิชาชีพทนายความที่ตนมีอยู่เพื่อเป็นเครื่องยืนยันความยุติธรรม

ด้านทนายความ กล่าวว่า การยื่นหนังสือครั้งนี้เป็นเพียงการเรียกร้องความเป็นธรรมตามสิทธิเท่านั้น มติดังกล่าวออกมาไม่เป็นธรรม ซึ่งข้อมูลที่นำมามอบต่อกระทรงสาธารณสุข เป็นหลักฐานตามความเป็นจริง โดยเป็นการโต้กลับตามข้อมูลที่ได้มาก็อิงจากสื่อมวลชน ซึ่งการแถลงข่าวของ พล.ต.ท.ก่อนหน้านี้ เป็นการตอบคำถามสื่อมวลชนตามความรู้ทางการแพทย์ ไม่ได้เป็นข้อมูลที่ พล.ต.ท.เป็นผู้รักษา ยืนยันว่า พล.ต.ท.เป็นเพียงผู้บริหาร ไม่ได้ทำการรักษานายทักษิณโดยตรง และไม่เคยลงนามเซ็นเอกสารการรักษาอย่างแน่นอน ที่สำคัญไม่เคยพูดคำว่า “ผู้ป่วยวิกฤต” ออกมาอย่างแน่นอน หากได้ผลสรุปแล้ว อาจมีการยืนฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป