วันนี้ (14 พ.ค.68) พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี เรียกประชุมตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี และตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี เพื่อติดตามความคืบหน้าคดี โจรไรเดอร์ควงปืนปลอมบุกเดี่ยวชิงทองหนัก 23 บาท มูลค่ากว่า 1.1 ล้านบาท ร้านทองในห้างแห่งหนึ่งสาขาอุดรธานี เหตุเกิดเวลา 19.15 น.วันที่ 26 เมษายน 2568 ผ่านไป 18 วัน ตำรวจยังตามจับคนร้ายไม่ได้
พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี ได้เปิดเผยว่า หลังจากเกิดเหตุ ตำรวจสืบสวน สภ.เมืองอุดรธานี กองกับการสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี และตำรวจสืบสวน ภ.4 ร่วมกันออกสืบสวนหาตัวคนร้าย โดยมีการประชุมความคืบหน้าร่วมกันทุก ส่วนความคืบหน้าของคดี ทราบว่าก่อนก่อเหตุ คนร้ายได้ขับรถวนอยู่ในซอยเพชรน้ำใส เส้นทางบ้านหนองใส เกือบ 1 ทุ่มก็ขับมาเข้าเส้นทางสี่แยกหนองใส เลี้ยวซ้ายเล้นรอบเมือง เข้าสี่แยกบายพาสสกลนคร เวลา 19.03 น. เลี้ยวขวาเข้าหน้าห้างฯ แล้วจอดรถจักรยานยนต์สีหลืองไว้ที่ถนนหน้าห้างฯ แล้วเดินเข้าประตูห้างฝั่งขวามือ ขึ้นบันไดเลื่อนไปก่อเหตุ โดยใช้เวลาก่อเหตุประมาณ 1 นาที ค่อนข้างรวดเร็ว ชิงเอาทองไป 23 บาท
คนร้ายได้ใช้เส้นทางหลบหนี โดยขี่รถจักรยานยนต์ สีเหลือง ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถรุ่นปี 2020 เลี้ยวซ้ายหลบหนีเข้าไปทางตัวเมืองอุดรธานี แต่ไปจอดติดขบวนรถไฟที่ทางพาดรถไฟตลาดหนองบัว จากนั้นได้เลี้ยวขวาสามแยกเอกอุดรไปถนนทองใหญ่ ตรงไปที่ชุมชนรถไฟ ผ่านวัดป่าหนองแก้ว เลี้ยวซ้ายออกถนนรอบเมือง เลี้ยวซ้าย คนร้ายจอดรถแล้วเปลี่ยนเสื้อเป็นเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำ เมื่อคนร้ายเปลี่ยนเสื้อเสร็จ ก็ขี่รถมุ่งตรงไปถึงถนนสี่แยกอุโมงค์และถนนต่างระดับเลี้ยวขวาไปถนนมิตรภาพ มุ่งหน้าไป จ.หนองคาย จากนั้นก็ได้หายไปไม่สามารถติดตามได้ จึงประสานตำรวจสืบสวน ภ.จ.อุดรธานี สืบสวนภาค 4 ได้ให้ตำรวจซึ่งมีเขตติดต่อกัน ปูพรมค้นหาคนร้ายแต่ก็ยังไม่พบตัว
“อยากให้ผู้ที่ขับรถยนต์และมีกล้องหน้ารถขณะจอดติดขบวนรถไฟที่ทางพาดรถไฟตลาดหนองบัวเปิดดู หากพบภาพคนร้ายขอให้ส่งมาให้ตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี และหากประชาชนท่านใดมีความสงสัยว่าบุคคลในภาพในคลิปที่ก่อเหตุ คล้ายคนที่รู้จัก มีเครื่องแต่งกาย มีรถ มีหมวกกันน็อคที่สงสัย สามารถแจ้งให้ข้อมูลมายัง พ.ต.ท.บรรจง พาโคตร สว.สส.สภ.เมืองอุดรธานี หรือ พ.ต.อ.พัฒนวงศ์ จันทร์พล ผกก.สภ.เมืองอุดรธานี หรือชุดสืบสวนที่รู้จัก เพื่อเป็นข้อมูลนำไปสู่การจับกุมคนร้าย ทางร้านทองมีรางวัลนำจับให้ 50,000 บาท”
