เวลา 14.49 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปยังกระทรวงสาธารณสุข อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก และสมเด็จพระศรีนครินทรา บรมราชชนนี
จากนั้น ทรงเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ ครั้งที่ 1/ 2568 เพื่อนำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการด้านการควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ 2565-2570, การดำเนินงานของภาคีเครือข่าย ได้แก่ กระทรวงมหาดไทย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และจังหวัดฉะเชิงเทรา
แบ่งเป็น 4 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ การขับเคลื่อนการควบคุมป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนสู่ความยั่งยืน มุ่งผลักดันนโยบายสู่การปฏิบัติ เชื่อมโยงทุกภาคส่วนแบบมีส่วนร่วม ตั้งแต่ระดับกระทรวงจนถึงพื้นที่ ผ่านคณะกรรมการควบคุมโรคขาดสารไอโอดีนแห่งชาติ และคณะอนุกรรมการทั้ง 4 คณะ โดยใช้ฐานข้อมูลไอโอดีนระดับชาติ เป็นฐานการดำเนินงาน ปัจจุบัน มีชุมชนหมู่บ้านไอโอดีนทั่วประเทศ 34,271 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 42.2, การพัฒนาระบบควบคุมการผลิตเกลือบริโภคเสริมไอโอดีนและผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ในปี 2567 คุณภาพเกลือบริโภคเสริมไอโอดีน ณ สถานที่ผลิตและจำหน่ายมีแนวโน้มดีขึ้น ส่วนผลิตภัณฑ์ปรุงรส เช่น น้ำปลา และซอสถั่วเหลืองมีแนวโน้มผ่านมาตรฐานเพิ่มขึ้น, การพัฒนาระบบเฝ้าระวัง การจัดข้อมูล และงานวิจัย จากการเฝ้าระวัง พบว่า ครัวเรือนที่บริโภคเกลือเสริมไอโอดีนที่มีคุณภาพ 20-40 ppm ยังไม่ครอบคลุมตามเป้าหมาย ที่กำหนดไว้ร้อยละ 90 ส่วนค่ามัธยฐานระดับไอโอดีนในปัสสาวะของหญิงตั้งครรภ์ ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา ภาพรวมผ่านเกณฑ์ คือ มากกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลิตร และความครอบคลุมการได้รับยาเม็ดเสริมไอโอดีน ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิกในหญิงตั้งครรภ์ ปี 2567 ร้อยละ 87.7 ใกล้เคียงเป้าหมายที่ร้อยละ 88 และการขับเคลื่อนทางสังคม สื่อสารประชาสัมพันธ์ กิจกรรมสำคัญ คือ วันที่ 25 มิถุนายน ของทุกปี เป็นวันไอโอดีนแห่งชาติ มีการรณรงค์ที่มุ่งให้เกิดการ "ระดมทุนทางสังคม ปลุกพลังประชาชน สร้างความรอบรู้ด้านไอโอดีน" จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทและตอบโจทย์พื้นที่ ในระยะต่อไปยังคงมุ่งเน้นขจัดโรคขาดสารไอโอดีนให้หมดไปจากประเทศไทย เพื่อเสริมสร้างสติปัญญาและสุขภาพที่ดี
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรนิทรรศการการเฝ้าระวังระดับไอโอดีนในปัสสาวะ โดยรูปแบบการตรวจสอบเป็นรอบ สำหรับเด็กอายุ 3-5 ปี และผู้สูงอายุ ซึ่งกรมอนามัย เก็บข้อมูลในปี 2566-2567 ครอบคลุม 53 จังหวัด พบว่าทั้ง 2 กลุ่ม ภาพรวมอยู่ในระดับเพียงพอ, นิทรรศการการขับเคลื่อนการดำเนินงานควบคุมและป้องกันโรคขาดสารไอโอดีนของจังหวัดแม่ฮ่องสอน และเครื่องมือช่วยคำนวณการเสริมไอโอดีนในผลิตภัณฑ์เกลือ และผลิตภัณฑ์ปรุงรสเสริมไอโอดีน มีแนวโน้มผ่านมาตรฐานเพิ่มขึ้น เนื่องจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา จัดอบรมพัฒนาศักยภาพผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มทักษะการผลิตเกลือเสริมไอโอดีนให้ได้คุณภาพตามกฎหมายอย่างต่อเนื่อง
