พ่อดีเจเตเต้ขับรถ 12 ชั่วโมง แจ้งความลูกหาย หวังทำทุกทางให้ได้ลูกกลับคืนมา

พ่อดีเจเตเต้ขับรถ 12 ชั่วโมง แจ้งความลูกหาย หวังทำทุกทางให้ได้ลูกกลับคืนมา

View icon 530
วันที่ 16 พ.ค. 2568 | 09.28 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
พ่อของดีเจเตเต้ ขับรถมาราธอนยาว 12 ชั่วโมง จากกาฬสินธิ์สู่กาญจนบุรี เข้าแจ้งความกับตำรวจหลังลูกชายถูกอุ้มหาย ยังติดต่อไม่ได้ 

ความคืบหน้า กรณี นายวราพงษ์ หรือ ดีเจเตเต้ อายุ 33 ปี ถูกกลุ่มบุคคลปริศนาขับรถตามประกบ ก่อนอุ้มตัวขึ้นรถหายสาบสูญ เหตุเกิด เมื่อช่วงเวลาประมาณ 03.53 น.ของวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ภายในหมู่บ้านพฤกษากาญจน์ 5 ซอย 7 ตำบลท่ามะขาม อำเภอเมือง จังหวัดกาญจนบุรีนั้น

ล่าสุด เมื่อเวลา 22.00 น.วันที่ 15 พฤษภาคม 2568 นายวิเชียร อายุ 58 ปี พ่อของดีเจเตเต้ ได้ขับรถจากจังหวัดกาฬสินธิ์ มุ่งหน้าสู่จังหวัดกาญจนบุรี ด้วยระยะเวลากว่า 12 ชั่วโมง เพื่อเข้าพบและแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ให้ช่วยติดตามตัวลูกชายของตนที่ถูกกลุ่มบุคคลอุ้มหายไปกลับคืนมา

โดยนายวิเชียร เล่าว่า ตอนแรก ได้รับแจ้งจากนางสาวเปรมยุดา ซึ่งเป็นแฟนสาวของดีเจเตเต้ ว่าดีเจเตเต้หายตัวไปและคาดว่า น่าจะถูกกลุ่มบุคคลบุกอุ้มลักพาตัวไป ตนเองจึงตัดสินใจโพสต์เรื่องราวดังกล่าวลงในเฟซบุ๊ก เพื่อหวังให้มีคนช่วยตามหาและแจ้งเบาะแสของลูกชายของตน แต่หลังจากโพสต์ไปได้ไม่นาน ก็มีบุคคลที่อ้างตัวว่าเป็นเพื่อนสนิทของลูกชายทักแช็ตมาหา พร้อมระบุข้อความว่า ต้องการให้ตนลบโพสต์ออก เพราะเรื่องราวทั้งหมดถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจแล้ว และอยู่ในระหว่างขั้นตอนการสืบสวน โพสต์ของตนอาจจะทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจทำงานได้ยากขึ้น ตนจึงยินยอมที่จะลบโพสต์

แต่ในขณะเดียวกัน ก็พยายามคิดหาวิธี ที่จะให้ มีผู้เข้ามาช่วยเหลือติดตามหาลูกชายของตนกลับคืนมาให้ได้ จึงได้โทรปรึกษาเพื่อนที่เป็นผู้สื่อข่าว พร้อมส่งข้อมูล และคลิปเหตุการณ์ต่างๆไปให้ จนนำไปสู่การเป็นข่าวในที่สุด ซึ่งการที่ตนเอง ขับรถจากจังหวัดกาฬสินธุ์เดินทางมาที่จังหวัดกาญจนบุรี รวมระยะเวลากว่า 12 ชั่วโมงในวันนี้ ก็เพื่อต้องการจะแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ให้ช่วยติดตามหาตัวลูกชายของตนกลับมาให้ได้อย่างปลอดภัย เพราะหลังจากเกิดเหตุ เวลาก็ผ่านล่วงเลยมานานมากแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววที่จะพบตัวลูกชายของตน

ขณะเดียวกัน ทนายรณรงค์ แก้วเพชร ได้เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี พร้อมพูดคุยกับนายวิเชียร ก่อนจะพานายวิเชียรเข้าไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี ให้ช่วยติดตามหาตัวของนายวราพงษ์ โดยทนายรณรงค์ กล่าวว่า ที่ตนเดินทางมาในวันนี้ มีวัตถุประสงค์เพียงอย่างเดียวคืออยากช่วย ตามหาตัวของนายวรพงษ์ ที่หายตัวไปงานเกือบ 3 วันแล้ว ซึ่งเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รอไม่ได้ อยากจะให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุดสืบสวนที่ขายคดี เร่งทำทุกอย่างเพื่อติดตามตัวของนายวราพงษ์กลับมาให้ได้ แต่หากเวลาผ่านไป ยังไม่พบตัวของนายวราพงษ์ ตนก็จะพาพ่อของนายวราพงษ์เดินทางไปยังตำรวจกองปราบเพื่อแจ้งความและขอให้ตำรวจกองปราบช่วยทำคดีนี้ให้

โดยหลังเข้าพบกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ข้อมูลและแจ้งความ ทนายรณรงค์ พร้อมด้วยนายวิเชียร ได้เดินทางไปจุดธูปบนบานศาลกล่าว ที่ศาล พระภูมิภายในสถานีตำรวจภูธรเมืองกาญจนบุรี เพื่อขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยดลบันดาล ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามหาตัวของนายวราพงษ์กลับมาให้ได้อย่างปลอดภัย

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าว ได้พูดคุยกับ ผู้จัดการของผับ ที่ดีเจเตเต้ มารับงานเอนเตอร์เทนลูกค้า ก่อนจะถูกอุ้มตัวหายไป โดยนายธนา ให้ข้อมูลว่า ดีเจเตเต้ ไม่ได้ทำงานที่ผับแห่งนี้ เพียงแต่เดินทางมารับงานเอนเตอร์เทน ให้กับลูกค้าผู้หญิงรายหนึ่ง ที่มาจากเลี้ยงฉลองวันเกิดภายในผับ โดยในคืนวันเกิดเหตุ โต๊ะของนายวราพงษ์ มีกันอยู่ประมาณ 10 กว่าคน เป็นผู้หญิงประมาณ 8 คนและผู้ชายประมาณ 4 คน ซึ่งเท่าที่ตนสังเกตดู ก็ไม่เห็นว่า ไปมีปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกับลูกค้ารายอื่นแต่อย่างใด หลังผับปิด ดีเจเตเต้ ก็เดินออกจากร้านไปตามปกติ ไม่ได้มีทีท่าว่าจะถูกอุ้มตัวหายไปแต่อย่างใด ซึ่งหลังจาก แฟนสาวของดีเจเตเต้ ได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางมาตรวจสอบภาพวิดีโอจากกล้องวงจรปิด ภายในร้านและบริเวณด้านหน้าร้านที่เห็นดีเจเตเต้เดินออกมากับกลุ่มเพื่อนก่อนจะเดินไปขึ้นรถ และไปถูกก่อเหตุหุ้มตัวหายไป เพื่อจะใช้เป็นข้อมูลในการติดตามหาตัวคนร้ายที่ก่อเหตุ มาดำเนินคดี และติดตามตัวของนายวราพงษ์ มาส่งคืนให้กับครอบครัวที่กำลังเฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง