ผบช.ภ.9 แถลงปิดคดีอุกฉกรรจ์ถ้าเผานั่งยาง 3 ศพกับผู้ต้องหาได้ครบ 4 คนยืนยันหลักฐานแน่น พร้อมสั่งรื้อคดีเก่า ฟ้องเพิ่มโทษ
วันนี้ (17 พ.ค.68) พลตำรวจโท ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุเผานั่งยางนายสุรเชษฐ์ หรือโกเชต อายุ 69 ปี กับลูกน้องอีก 2 คน ในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เพื่อนำตัวผู้ต้องหา 4 คน มาชี้จุดเกิดเหตุ ซึ่งนายศุภกรณ์ หรือ บิน หัวหน้าแก๊ง พร้อมเพื่อนที่ร่วมก่อเหตุได้ชี้จุดที่โกเชษฐ์ ขับรถกระบะเข้ามาสวนปาล์มน้ำมัน โดยมีลูกน้อง 2 คนนั่งอยู่ท้ายรถกระบะ พูดคุยกัน และเห็นโกเชษฐ์เปิดชายเสื้อ ขณะที่ลูกน้อง ลุกขึ้นถือมีด จึงใช้ปืนยิงลูกน้องได้รับบาดเจ็บ จากนั้นให้โกเชษฐ์ ขับรถกระบะ ไปยังขนำในสวนปาล์มอีกฝั่ง โดยให้เข้าไปอยู่ในขนำ บังคับให้ลูกน้องโอนเงิน 40,000 บาท มาให้ตัวเอง ก่อนที่จะใช้อาวุธปืนของโกเชษฐ์ ยิงกับลูกน้อง จากนั้นก็นำทั้ง 3 คน ไปที่ร่องน้ำกั้นเขตแดนสวนปาล์มน้ำมัน แล้วนำไม้มาวางพาดสองฝั่ง ก่อนที่นายแต้ม กับนายเทือก จะไปจัดหายางรถยนต์มาเผา ซึ่งขณะนั้น โกเชษฐ์ยังไม่เสียชีวิต จึงคลานหนีความตาย ออกมาจากกองไฟ แต่ปรากฏว่านายแจ็คกที่นั่งเฝ้าอยู่เห็นเข้า จึงตามไปยิงซ้ำ อีก 2 นัด ก่อนจะลากกลับมาลงกองไฟอีกครั้ง ทั้งนี้ นายบิน ได้แสดงความเสียใจ กับสิ่งที่ทำลงไป และขอโทษ ครอบครัวผู้เสียชีวิต เช่นเดียวกับ นายแจ็ก ได้ยกมือไหว้ขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตด้วย
ทั้งนี้ ผบช.ภ.9 ยืนยันว่าตำรวจชุดสืบสวน ได้รวบรวมเก็บพยานหลักฐาน อย่างละเอียด และทำสำนวนคดีนี้อย่างแน่นหนา รัดกุม พร้อมคัดค้านการประกันตัว ผู้ต้องหา ทั้ง 4 คน นอกจากนี้ได้สั่งการให้ตรวจสอบประวัติ ของทั้ง 4 คน ซึ่งพบว่า เคยก่อเหตุ ฆ่าผู้อื่น และเหตุอื่น ๆ อีกหลายคดี จึงสั่งให้ฟ้องเพิ่มโทษจับผู้ต้องหาด้วย รวมถึงสั่งการให้ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกจังหวัด ในพื้นที่ตำรวจภูธรภาค 9 ระดมกำลังกวาดล้างอาชญากรรม โดยเฉพาะเรื่องของอาวุธปืน ที่นำมาใช้ก่อเหตุ และกำชับแล้วว่าจะต้องไม่มีเหตุในลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก
ภายหลังการแถลงปิดคดี ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ศพ ได้เข้าขอบคุณตำรวจที่ติดตามจับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุได้อย่างรวดเร็วและขอให้ตำรวจดำเนินการขั้นเด็ดขาด ศาลตัดสินจำคุกประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต
จากการตรวจสอบประวัติคดีอาญา ของนายศุภกรณ์ หรือ ‘บิน ควนกุน’ ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง พบว่าในปี 2553 ขณะอายุ 23 ปี เคยต้องคดีฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.ห้วยยอด ,ในปี 2553 (ปีเดียวกัน ) เคยต้องคดี ฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.วังวิเศษ ,ปี 2557 เคยต้องคดีตัวการในข้อหาฆ่าผู้อื่น ,ตัวการในข้อหามีเครื่องกระสุนปืน ในพื้นที่ สภ.วังวิเศษ ,ปี 2557 เคยต้องคดีฆ่าผู้อื่น ในพื้นที่ สภ.สิเกา และ ปี 2557 เคยต้องคดี เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ในพื้นที่ สภ.สิเกา