ลูกเลี้ยง คลั่งยา ใช้ไม้ตีหัวพ่อเลี้ยงวัย 73 เลือดอาบ ครอบครัว เผย สุดทนกับลูกชายคนนี้ อยากให้ติดคุกไปนานๆ แต่แจ้งตำรวจไป ลูกเลี้ยงก็ไม่เคยถูกจับสักครั้ง คนในบ้านต้องอยู๋แบบหวาดระแวง บางวันตีแม่ บางวันตีพ่อ บางวันตีหลาน
วันที่ 18 พฤษภาคม เวลา 20.30 น.เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รับแจ้งมีเหตุทำร้ายร่างกาย ที่บ้านหลังหนึ่ง หมู่ที่ 7 ต.บ้านใหม่ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา จุดเกิด พบนายฉัตรชัย อายุ 73 ปี ถูกภรรยาและหลานสาว พาออกมารอความช่วยเหลือ โดยมีบาดแผลแตกที่บริเวณศรีษะ มีเลือดไหลจำนวนมาก จึงปฐมพยาบาลเบื้อง ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จากนั้นหลานสาวโทรแจ้งตำรวจ 191 ให้ส่งตำรวจ มายังจุดเกิด ส่วนผู้ก่อเหตุ คือนายพงษา อายุ 50 ปี ยังคงหลบซ่อนตัวอยู่ในบ้าน แต่ไม่มีการอาละวาดหรือคลั่ง จึงแจ้งญาติตอนนี้เป็นยามวิกาลแล้วไม่สามารถ ทำอะไรได้ จึงแนะนำให้ ทางผู้บาดเจ็บ เดินทางไปแจ้งความลงบันทึกประจำวัน ที่สภ.พระนครศรีอยุธยา
ด้าน นางสาว ไอยดา อายุ 20 ปี ลูกสาว ผู้ก่อเหตุ ก็รู้สึกงง แจ้งตำรวจมา แต่ช่วยอะไรไม่ได้ ตนเองเป็นหวงตากับยาย เนื่องจากในบ้านมีแต่คนแก่ และเด็ก ส่วนตนเองและหลานคนอื่นก็อยู่ไกล พอยายโทรไปบอกว่า พ่อตีตาก็รีบมาที่บ้านทันที จากนั้นก็รีบพาตากับยายออกมาด้านนอกเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวบ้าน และรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจหวังจะให้มานำตัวพ่อออกไป เพื่อดำเนินคดี แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงแล้วก็รู้สึกผิดหวัง บอกว่าทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากเป็นช่วงยามวิกาลเข้าไปไม่ได้ ไม่ปลอดภัย ซึ่งตนเองก็รู้สึกงงกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยเหลืออะไรไม่ได้และคนในบ้านจะอยู่อย่างไร
พ่อของตนเองนั้นไม่ได้อาละวาดแค่ครั้งเดียว จะอาละวาดทำร้ายตากับยายเป็นประจำ แจ้งตำรวจมาก็บอกเป็นเรื่องในครอบครัวทำอะไรไม่ได้ จน พ่อตนเอง ได้ใจ ใครทำอะไรไม่ ส่วนตนเองก็เคยถูกพ่อใช้เคียวจี้ปาดคอมาแล้ว ไล่กระทืบ เมื่อประมาณปลายปีที่แล้วจนตนเองต้องออกไปเช่าหออยู่ด้านนอก
ส่วนตากับยายก็ต้องจำใจอยู่ที่นี่และก็ถูกพ่อทำร้ายร่างกายทุบตีเป็นประจำ ซึ่งมาครั้งนี้ถือว่าหนัก เลือดตกยางออก จนไม่รู้จะทำยังไงแล้ว ส่วนสาเหตุก็มาจากที่พ่อกินเหล้าและก็เสพยาบ้าออกไปข้างนอกกลับมาก็จะมาอาละวาดทุบข้าวของและทำร้ายคนในบ้านเป็นประจำ อยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยนำตัวไปควบคุมและดำเนินคดี ซึ่งก่อนหน้านี้เคยแจ้งตำรวจไปแล้วนำไปสองวันก็ถูกปล่อยกลับมา โดยเจ้าหน้าที่บอกพ่อเป็นผู้ป่วยจิตเวชทำอะไรไม่ได้ต้องนำไปบำบัดอย่างเดียว ยอมรับว่า ทุกคนในบ้านตอนนี้ทุกข์มาก
ต่อ นายฉัตรชัย อายุ73 ปี และนางบุญเรือน อายุ 69 ปี พากันเดินทางมาแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.พระนครศรีอยุธยา ก่อนเผยว่า ผู้ก่อเหตุคือนายพงษา (เบิ้ม) เป็นลูกเลี้ยง ติตยาเสพติต กินเหล้า คลั่งอาวาด ช่วงเกิดเหตุ ตนเองกำลังนอนอยู่ในห้อง นายเบิ้ม กลับมาอาละวาด แล้วโกนด่าตนเองอยู่หน้าห้อง ตนเองไม่ได้ตอบโต้อะไร ทำให้นายเบิ้มโมโหถีบประตูห้องนอนเข้ามา จากนั้นใช้ท่อนไม้ฟาดเข้ามาที่ศรีษะตนเองอย่างจังจนเลือดอาบ ขณะนั้นนางบุญเรือน ผู้เป็นแม่ก็พยายามจะห้าม แต่นายเบิ้มไม่ฟัง ผลักแม่จนกระเด็น และก็อาละวาดทำร้ายข้าวของในในบ้าน ตอนนี้ สุดทนกับลูกชายคนนี้กินเหล้าติดยาสารพัด แล้วก็อาละวาดทุบตีคนในบ้านไม่รู้จะทำอย่างไรแล้ว อยากจะให้ลูกชายติดคุกไปนานนาน แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า ลูกชายเป็นผู้ป่วยจิตเวช ต้องทำการรักษาบำบัดเท่านั้น
