รถพ่วงบรรทุกกากสับปะรด พ่วงหลุดพลิกคว่ำ เก๋งตามหลังไม่ทันระวังลื่นกากสับปะรด เสียหลักฟาดท้ายรถสิบล้อ คนขับดับ
วันนี้ (20 พ.ค.68) พ.ต.ท.อิศรัฐ ตันสุ พนักงานสอบสวน สภ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ได้รับแจ้งว่ามีอุบัติเหตุรถเก๋งชนท้ายรถบรรทุก 10 ล้อ มีผู้เสียชีวิต บริเวณทางด่วนกาญจนาภิเษก ขึ้นจากหน้าด่านสุขสวัสดิ์ประมาณ 1 กิโลเมตร มุ่งหน้าลงด่านบางขุนเทียน จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมด้วยรถกู้ภัยและรถอุปกรณ์เครื่องตัดถ่างมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งสีดำ จอดขวางกลางถนนสภาพพังยับเยินทั้งคันหลังคาเปิด ภายในรถพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 ราย ทราบชื่อภายหลังคือ นาย ชาติชาย อายุ 34 ปี นั่งเสียชีวิตอยู่บนเบาะคนขับ ลักษณะนอนฟุบไปทางเบาะคนนั่ง สภาพศพสวมเสื้อยืดคอกลมสีน้ำเงินเข้ม สวมกางเกงยีนส์ขายาวสีน้ำเงิน สะพายกระเป๋าคาดอกสีดำ
ห่างกันประมาณ 50 เมตร พบรถคู่กรณีเป็นรถบรรทุก 10 ล้อแบบหัวยาว บรรทุกวัตถุดิบอาหารสัตว์มาเต็มคัน จอดชิดขอบทางด้านซ้ายเปิดไฟฉุกเฉินอยู่ บริเวณแยกตัววายยังพบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อสีขาว บรรทุกกากสับปะรดมาเต็มคันจอดอยู่ ส่วนลูกพ่วงพลิกคว่ำอยู่บนถนน กากสับปะรดกระจายเกลื่อนเต็มท้องถนน เจ้าหน้าที่ทางด่วนเร่งเก็บกวาดออกจากพื้นถนนเพื่อป้องกันอุบัติเหตุซ้ำซ้อน
จากการสอบถาม นายบุญส่ง อายุ 46 ปี โชเฟอร์รถบรรทุก 10 ล้อ ให้การว่า ก่อนเกิดเหตุตนขับรถบรรทุกวัตถุดิบอาหารสัตว์ออกมาจากโรงงานย่านพระสมุทรเจดีย์ เพื่อไปส่งโรงงานลูกค้าย่าน จ.สระบุรี โดยใช้เส้นทางด่วนกาญจนาภิเษก เมื่อตนรับบัตรทางด่วนเสร็จเรียบร้อยแล้วขับขึ้นมาถึงบริเวณแยกตัววาย เห็นรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อบรรทุกกากสับปะรด ลูกพ่วงพลิกคว่ำขวางทางอยู่ในเลนที่ 1 และ 2 ด้านซ้ายมือโดยมีกากสับปะรดเทกระจายเกลื่อนพื้นถนน จึงพยายามเบี่ยงหลบไปทางขวาซึ่งขับห่างจากจุดที่รถบรรทุกกากสับปะรดพลิกคว่ำมาไม่ไกลนัก จากนั้นได้ยินเสียงโครมใหญ่ดังมาจากท้ายรถตนจนรถสะเทือนไปทั้งคัน จึงรีบขับรถจอดชิดขอบทางด้านซ้ายก่อนลงไปดูพบว่ามีรถเก๋งมาชนท้ายจนรถพังยับเยินและเห็นคนขับนอนฟุบไปกับเบาะคนนั่ง จึงรีบโทรศัพท์แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยให้รีบเดินทางมาช่วยเหลือ
ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่า รถเก๋งขับมาด้วยความเร็วไม่ทันระวังว่ามีอุบัติเหตุอยู่ด้านหน้า และมีกากสับปะรดหล่นเกลื่อนถนน จึงทำให้รถเสียหลักลื่นก่อนจะหมุนคว้างฟาดกับท้ายรถบรรทุก 10 ล้ออย่างจังจนผู้ขับขี่เสียชีวิต ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บันทึกภาพพร้อมลงบันทึกประจำวันไว้เบื้องต้น ก่อนเชิญตัวคนขับรถบรรทุก 10 ล้อและรถบรรทุก 18 ล้อพ่วง ไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจ เพื่อดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมมอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่มูลนิธินำส่งสถาบันนิติเวชเพื่อผ่าพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง และประสานญาติผู้เสียชีวิตให้เดินทางมาติดต่อขอรับศพไปประกอบพิธีตามศาสนาต่อไป
