โจรทำทรงเป็นคนรักแมว ก่อนย่องลักทรัพย์ หาเงินเปย์สาว

โจรทำทรงเป็นคนรักแมว ก่อนย่องลักทรัพย์ หาเงินเปย์สาว

View icon 232
วันที่ 20 พ.ค. 2568 | 15.27 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
20 พ.ค. 68 เมื่อเวลา 13.00 น. พ.ต.ท.ยอดรัก กิตติลัภนะรัตน์ รองผู้กำกับการสืบสวน สภ.เมืองสมุทรปราการ พร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน ร่วมกันจับกุมนายสมบัติ อายุ 45 ปี ชาว จ.นครปฐม ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ พร้อมของกลาง รถจักรยานยนต์ สีฟ้า ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ,เงินสดกว่า 47,000 บาท และอุปกรณ์ช่างอีกหลายรายการ โดยจับกุมได้บริเวณลานจอดรถจักรยานยนต์ ในเคหะชุมชนบ่อนไก่ ซอยปลูกจิต 1 แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 พ.ค. ที่ผ่านมา มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความว่าถูกคนร้ายงัดประตูห้องพักในซอยร่วมพัฒนา 9 ต.ท้ายบ้านใหม่ อ.เมืองสมุทรปราการ ก่อนขโมยทรัพย์สินรวมถึงเงินในกระปุกออมสินไปกว่า 2,500 บาท จากการตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิด พบคนร้ายใช้รถจักรยานยนต์ของกลาง ขี่เข้ามาก่อเหตุ ก่อนหลบหนีไป

เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่ารถดังกล่าวสวมทะเบียน จึงได้ติดตามพฤติกรรมอย่างใกล้ชิด กระทั่งทราบว่าคนร้ายไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เปลี่ยนที่อยู่หลบซ่อนอยู่เรื่อย ๆ คล้ายคนเร่ร่อน จนกระทั่งพบเบาะแสว่าคนร้ายนำรถที่ใช้ก่อเหตุไปจอดไว้ในเคหะบ่อนไก่ เจ้าหน้าที่จึงเฝ้าสังเกตการณ์กระทั่งช่วงเช้าเวลา 07.00 น. พบผู้ต้องหาเดินมาที่รถ เตรียมออกตระเวนก่อเหตุอีกครั้ง จึงแสดงตัวเข้าจับกุม

จากการตรวจค้นในกระเป๋า พบอุปกรณ์งัดแงะและเงินสดกว่า 47,000 บาท พบว่า ผู้ต้องหาได้โอนให้หญิงสาวคาราโอเกะ เจ้าหน้าที่สามารถติดตามเงินคืนมาได้บางส่วน ส่วนทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น ทองรูปพรรณและของมีค่าอีกหลายรายการ ที่ผู้ต้องหานำไปขายหรือจำนำ คาดว่ามีมูลค่ารวมกว่า 300,000 บาท ขณะนี้อยู่ระหว่างติดตามคืน
 
ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า เพิ่งพ้นโทษจากคดีลักทรัพย์ในพื้นที่ สน.บางบอน เมื่อปีที่แล้ว และเคยทำงานเป็น รปภ. ก่อนตกงาน จึงหวนกลับมาก่อเหตุ โดยใช้วิธีขี่รถจักรยานยนต์ตระเวนหอพัก ทำทีนำอาหารมาให้แมวจรจัด เพื่อไม่ให้คนสงสัย จากนั้นจึงอาศัยจังหวะลงมืองัดห้องขโมยทรัพย์สิน ก่อนเปลี่ยนป้ายทะเบียนและหลบหนีไปพักตามจุดต่าง ๆ ใต้สะพานหรือเคหะชุมชน เพื่อให้ยากต่อการติดตาม ส่วนเงินที่ได้จะนำไปใช้จ่ายส่วนตัวและเที่ยวผู้หญิง
 
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การว่าก่อเหตุเพียง 2 ครั้ง เนื่องจากมีพยานหลักฐานเชื่อมโยงกับเหตุลักทรัพย์ในหลายพื้นที่ ทั้งในเขตนครบาลและปริมณฑล เบื้องต้นแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิด หรือการพาทรัพย์นั้นไปเพื่อให้พ้นจากการจับกุม” ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง