เวลา 09.36 น. วันนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงติดตามการดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ (บ้านคลองวาย) อำเภอวิภาวดี จังหวัดสุราษฎร์ธานี
โอกาสนี้ ทอดพระเนตรการแสดงมโนราห์ของนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านควนสามัคคี จังหวัดชุมพร แล้วทรงเปิดป้ายโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนท่านผู้หญิงอังกาบ บุณยัษฐิติ (บ้านคลองวาย) ซึ่งกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 ก่อสร้างแล้วเสร็จ และเปลี่ยนชื่อมาจากโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านคลองวาย เพื่อเป็นอนุสรณ์ให้ท่านผู้หญิงอังกาบ บุญยัษฐิติ พระอาจารย์ในสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ตามพระราชประสงค์ ด้วยทรงรำลึกถึงพระคุณ ท่านผู้หญิงอังกาบฯ ผู้มีภูมิรู้ ภูมิปัญญา ความสามารถและความพากเพียรวิริยะอุตสาหะ เสียสละ อุทิศตนพัฒนาส่งเสริมการศึกษาให้กับเยาวชน ปัจจุบัน ท่านผู้หญิงอังกาบฯ เป็นกรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิของสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา อดีตผู้จัดการและผู้อำนวยการโรงเรียนจิตรลดา และอดีตอธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีจิตรลดา นอกจากนี้ ได้พระราชทานอาคารเรียน ขนาด 9 ห้องเรียน 1 หลัง พร้อมงบประมาณปรับปรุงห้องน้ำ จัดซื้อโต๊ะ-เก้าอี้ จัดหาเครื่องคอมพิวเตอร์ ระบบไฟฟ้า ปรับปรุงโรงอาหารให้ถูกสุขลักษณะ
จากนั้น ทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียนฯ ซึ่งเปิดสอนชั้นก่อนประถมศึกษา ถึงประถมศึกษา มีนักเรียน 161 คน โดยผล O-NET ของชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 วิชาภาษาไทย วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และภาษาอังกฤษ มีคะแนนสูงขึ้น
โอกาสนี้ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 กราบบังคมทูลรายงานการแก้ปัญหาของโรงเรียนในความรับผิดชอบ 11 โรงเรียน อาทิ ผลการวัดและประเมินความสามารถด้านการฟัง-พูดของชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-3 พบว่ามีแนวโน้มการพัฒนาที่ดีขึ้น มอบหมายให้ครูจัดอบรมนักเรียนที่มีปัญหาเพิ่มเติม ผ่านระบบออนไลน์ทุกวัน, ผลผลิตจากผลไม้และถั่วเมล็ดแห้ง ปีการศึกษา 2567 ทุกโรงเรียนผลิตได้เพียงพอ มีน้ำอุปโภคบริโภคเพียงพอ มีการปรับปรุงซ่อมแซมระบบน้ำ และจัดหาน้ำดื่มที่มีคุณภาพให้โรงเรียนที่มีปัญหา
โอกาสนี้ มัคคุเทศก์น้อยนำทอดพระเนตรการฝึกวิชาชีพ เช่น ผ้ามัดย้อมจากสีธรรมชาติ, การแปรรูปผลิตภัณฑ์จากผ้ามัดย้อม เช่น ผ้าพันคอ กระเป๋า และผ้ามัดย้อมนาโนจากสีธรรมชาติ
โครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน เรียนรู้อาชีพการเกษตรอย่างครบวงจร ตั้งแต่การผลิตที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การนำผลผลิตไปใช้ มีการเพาะขยายพันธุ์สุกร ที่เริ่มเลี้ยงเมื่อปี 2561 จำนวน 2 ตัว ปัจจุบันขยายพันธุ์ได้ 8 ตัว เป็นพ่อพันธุ์ 1 ตัว แม่พันธุ์ 2 ตัว และลูกสุกร 5 ตัว ลูกสุกรนำไปจำหน่ายให้โรงเรียนอื่น และชุมชน มูลสุกรนำมาทำปุ๋ยหมักอินทรีย์ ใช้ในโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน กรมชลประทาน สนับสนุนน้ำใช้สำหรับแปลงเกษตร โดยก่อสร้างฝายบ้านคลองวาย พร้อมระบบท่อส่งน้ำ, ท่อส่งน้ำสายซอย และบ่อพักน้ำ 2 แห่ง ทำให้โรงเรียน และราษฎร หมู่ที่ 7 ตำบลตะกุกเหนือ มีน้ำทำการเกษตรเพียงพอ
จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงของนักเรียนชั้นอนุบาล การประกอบอาหารกลางวัน การแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร เช่น เค้กกล้วยหอม และผลิตภัณฑ์ชุมชน เข่น ทุเรียนทอด และปลาดุกเปรี้ยว
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ แพทย์ เภสัชกร พยาบาล จากโรงพยาบาลวิภาวดี, โรงพยาบาลท่าโรงช้าง, หมวดแพทย์กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 41 และทันตแพทย์ จากคณะทันตแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ไปตรวจรักษาโรค และทันตกรรม แก่นักเรียน และประชาชน ตั้งแต่วันที่ 21 พฤษภาคม มีผู้เข้ารับการตรวจรักษาโรค 124 คน ส่วนใหญ่เป็นโรคทางเดินหายใจ และทางเดินอาหาร ด้านหน่วยทันตกรรมมีผู้เข้ารับบริการขูดหินน้ำลาย อุดฟัน ถอนฟัน ผ่าฟันคุด เคลือบหลุมร่องฟัน และเคลือบฟลูออไรด์ 209 ราย
เวลา 14.03 น. เสด็จพระราชดำเนินไปยังโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนเทคนิคมีนบุรีอนุสรณ์ 1 อำเภอพระแสง ทรงติดตามการดำเนินงานของโรงเรียน และโครงการตามพระราชดำริ โรงเรียนแห่งนี้ เปิดสอนชั้นอนุบาล 1 ถึงประถมศึกษาปีที่ 6 มีนักเรียน 147 คน ครู ตชด. 8 นาย ซึ่งเป็นคุรุทายาท 7 นาย และมีครูอัตราจ้าง 4 คน ดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ครบ 8 เป้าหมายหลัก ในปีการศึกษา 2567 นักเรียนที่จบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เรียนต่อชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ครบทุกคน ปัจจุบันมีนักเรียนในพระราชานุเคราะห์กำลังศึกษา 10 คน
โรงเรียนยังเสริมสร้างศักยภาพทางการอาชีพ เช่น การสานกระจาดจากใบมะพร้าว เพื่อเป็นบรรจุภัณฑ์ หลังจากส่งเสริมการทำน้ำมันมะพร้าวสกัดเย็น 100% และลิปบาล์ม โดยมีปราชญ์ชาวบ้าน และกลุ่มพัฒนาอาชีพบ้านบางเตาถ่ายทอดความรู้การทำผลิตภัณฑ์ ซึ่งปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์สบู่น้ำมันมะพร้าว และครีมบำรุงผิวเข้มข้นชนิดก้อน ส่งจำหน่ายที่ร้านภูฟ้า และที่ทำการกลุ่ม
ในการนี้ ทอดพระเนตรการแสดงทักษะของนักเรียนชั้นอนุบาล ชุด "ส้มตำ" เป็นการจัดการเรียนการสอนตามโครงงาน Project Approach ซึ่งพัฒนาแบบองค์รวม ให้นักเรียนเลือกหัวข้อที่สนใจ และครูจะนำมาจัดทำแผนการเรียนรู้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการ 4 ด้าน และพัฒนาทักษะสมอง โดยจัดการเรียนการสอนในทุกระดับชั้น ในปี 2567 ครูได้รับรางวัลเหรียญทอง แนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ หรือ Best Practice ปฐมวัย จากกระทรวงศึกษาธิการ แล้วทรงเยี่ยมชมรมศิษย์เก่า ซึ่งทำกิจกรรมเพื่อการพัฒนาโรงเรียน เช่น ด้านกีฬา ศาสนา และการมอบทุนให้แก่นักเรียน
จากนั้น ทอดพระเนตรการแสดงชุด "อนุรักษ์เชิดชู ภูมิปัญญาท้องถิ่นของชุมชน" นำเสนอความเป็นมาของชุมชนตำบลบางสวรรค์ แล้วทรงติดตามการดำเนินโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ส่งเสริมการปลูกพืชผัก ถั่วเมล็ดแห้ง ผลไม้ เพาะเห็ด เลี้ยงสัตว์ และประมง มีผลผลิตเกินความต้องการต่อการประกอบอาหารกลางวัน จึงนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์เพื่อถนอมอาหาร และแจกจ่ายแก่ชุมชน นักเรียนยังได้รับการส่งเสริมให้ปลูกหญ้าแฝก เพื่อการอนุรักษ์ดินและน้ำ รวมทั้งทำเป็นผลิตภัณฑ์จากหญ้าแฝก
กิจกรรมห้องสมุด นำเสนอการเล่านิทานเป็นภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 6 เรื่อง "หมาน้อยผู้มาใหม่ The Story of a Novice Puppy" ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะการอ่าน ทักษะภาษา และทักษะการคิดวิเคราะห์ สามารถสรุปใจความสำคัญและให้ข้อคิดเห็นจากการอ่านได้
กิจกรรมสหกรณ์ ดำเนินงานร้านค้า, การออมทรัพย์, การรับซื้อผลผลิตโครงการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน และงานสวัสดิการ เช่น การไปศึกษาดูงาน และมอบทุนการศึกษา ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวดการบันทึกบัญชีในสหกรณ์นักเรียน ประจำปี 2557 และรางวัลชนะเลิศการประกวดการบันทึกรายงานการประชุม ในสหกรณ์นักเรียน ประจำปี 2567
จากนั้น ทอดพระเนตรการสาธิตการทำไข่เค็มสมุนไพรใบเตยอัญชัน เป็นการแปรรูปถนอมอาหาร แล้วทรงเยี่ยมกลุ่มสัมมาชีพบ้านบางเตา ที่รวมกลุ่มกันทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เช่น เครื่องแกง, ปลาดุกร้า, ไข่เค็มสมุนไพร และมีกลุ่มพัฒนาอาชีพในเครือข่ายร่วมนำเสนอผลิตภัณฑ์ผ้า และตะกร้า
จากการดำเนินโครงการตามพระราชดำริ ส่งผลให้นักเรียนมีการเจริญเติบโต และพัฒนาการที่สมวัย ปัจจุบันยังเฝ้าระวัง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากพบผู้ป่วยในพื้นที่ เช่น ส่งเสริมการล้างมือ และการสวมหน้ากากอนามัย โดยวันนี้ มีหน่วยแพทย์พระราชทานออกหน่วยให้บริการตรวจรักษาประชาชน ส่วนใหญ่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจ และระบบกล้ามเนื้อ และมีหน่วยทันตกรรมพระราชทานออกให้บริการด้วย พบผู้ป่วยโรคปากแหว่งเพดานโหว่ ต้องส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี 1 คน
ในการนี้ ทรงเยี่ยมประชาชนที่เฝ้าทูลละอองพระบาทรับเสด็จ ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเยี่ยมโรงเรียนในวันนี้ ซึ่งระหว่างทรงติดตามการดำเนินงานด้านต่าง ๆ มีฝนตกลงมาเป็นระยะ ๆ ด้วย