บุกทลายคลังแสง จับหนุ่มพลเรือนค้าปืนสงคามเถื่อนในค่ายทหาร ใช้ร้านค้าสวัสดิการทหารบังหน้า

บุกทลายคลังแสง จับหนุ่มพลเรือนค้าปืนสงคามเถื่อนในค่ายทหาร ใช้ร้านค้าสวัสดิการทหารบังหน้า

View icon 3.2K
วันที่ 28 พ.ค. 2568 | 16.34 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
วันนี้ (28 พ.ค. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการจับกุมและยึดของกลางอาวุธสงครามนานาชนิดจำนวนมาก จากการปฏิบัติการครั้งใหญ่ของทีมปฏิบัติการทางทหาร โดยมีรายงานว่าตั้งแต่แต่ช่วงบ่ายของวันที่ 27 พ.ค. 68 ที่ผ่านมา มีนายทหารชั้นผู้ใหญ่ และทีมปฏิบัติการลับทางทหารจากหลายหน่วย ทั้งจากกองทัพบก และนอกหน่วย ได้เข้าร่วมกันเข้าจับกุมแหล่งค้าอาวุธออนไลน์ในร้านพลเรือนมาเช่าพื้นที่ในร้าน PX สำหรับสวัสดิการทหาร ตั้งอยู่ตรงข้ามกองบัญชาการกองทัพภาคที่ 4

สืบเนื่องจากมีการสืบสวนขยายผลติดตามการค้าอาวุธผ่านออนไลน์มาจาก จ.เชียงใหม่ จนพบว่าต้นทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เป็นแหล่งค้า โดยสืบสวนมาจนถึงจุดส่ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เข้าประชิดและแสดงตัวก่อนเข้าคุมตัวพลเรือนรายนี้ ทราบชื่อ นายวิสุทธิ์ อายุ 41 ปี ชาว ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช โดยค้นพบหลักฐานส่วนประกอบอาวุธปืนในร้านส่วนหนึ่ง จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้นำตัวไปยังบ้านพักของทางราชการภายในค่ายวชิราวุธ ซึ่งเป็นของหน่วยทหารแห่งหนึ่ง ที่ภรรยาของนายวิสุทธิ์รับราชการอยู่ในหน่วยแห่งนั้น พบหลักฐานอีกจำนวนหนึ่ง

นอกจากนี้ยังไปตรวจค้นบ้านเดิมของผู้ต้องหา ที่ ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช พบของกลางอีกจำนวนมาก และเมื่อนำมานับรวมพบว่ามีอาวุธปืนนานาชนิดพร้อมใช้งานรวม 50 กระบอก อุปกรณ์อะไหล่สำหรับประกอบอาวุธปืนเอ็ม 16 และกลไกต่าง ๆ พานท้ายปืน อีกจำนวนมาก เครื่องกระสุนนานาชนิดอีกร่วม 20,000 นัด โดยทหารชุดปฏิบัติการได้ตรวจยึดทั้งหมด และนำมาทำการตรวจสอบในจุดศูนย์รวมแห่งหนึ่งภายในค่ายวชิราวุธ ตั้งแต่ช่วงเย็นของวันที่ 27 พ.ค. 68 และมีการตรวจสอบยุทโธปกรณ์ทั้งหมดตลอดทั้งคืนอย่างละเอียด พบว่าทั้งอาวุธที่อยู่ในสภาพใหม่แกะกล่อง ชิ้นส่วนอาวุธเก่า เครื่องกระสุนซึ่งพบความเชื่อมโยงถึงแหล่งที่มาของหน่วยงานด้านความมั่นคงแห่งหนึ่ง ทีมปฏิบัติการจึงเร่งตรวจสอบแจ้งข้อมูลไปยังผู้บังคับบัญชาชั้นสูงเพื่อพิจารณาสั่งการ

ส่วนพฤติการณ์ในการประกอบธุรกิจอาวุธเถื่อนของพลเรือนรายนี้ ได้มีการเข้าเช่าพื้นที่ร้านค้าภายในร้าน PX ของ มทบ.41 ซึ่งเปิดให้เช่าสำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่สนใจ โดยมี นายวิสุทธิ์ ได้เข้าเช่าใช้พื้นที่เปิดร้านจำหน่ายอุปกรณ์เครื่องแต่งกาย และอุปกรณ์ตกแต่งดูแลบำรุงรักษาอาวุธชนิดต่าง ๆ รวมทั้งยังรับซ่อมอาวุธเป็นการบังหน้า แต่มีการทำธุรกิจออนไลน์จดทะเบียนเป็นผู้ค้าออนไลน์ มีการจำหน่ายชิ้นส่วนอาวุธปืนสงครามและอาวุธปืนผิดกฎหมายทั้งสั้นและยาว อีกทั้งยังมีอุปกรณ์ที่สามารถนำมาประกอบเป็นอาวุธปืนเอ็ม 16 พร้อมบริการจำหน่ายกระสุนแบบไม่อั้น

อย่างไรก็ตาม นายทหารชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องได้ประสานกับ พล.ต.ต.จารุต ศรุตยาพร ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช (ผบก.ภ.จว.นครศรีธรรมราช) นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนสอบสวนเข้าร่วมเพื่อรับช่วงต่อในการดำเนินคดี มีการทำบันทึกจับกุม และคุมตัวแยกเป็นสอง 2 คดี โดยคดีแรกเกิดขึ้นในเขต อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นพื้นที่จับกุม และอีกคดี เป็นคดีครอบครองในท้องที่ สภ.ท่าศาลา

ทั้งนี้ หลังจากถูกส่งตัวให้ตำรวจ นายวิสุทธิ์ ได้ถูกตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช สอบสวนอย่างต่อเนื่องเพื่อขยายผลอย่างละเอียด มีการปิดกั้นห้ามไม่ให้มีการบันทึกภาพในส่วนของการสอบสวนผู้ต้องหาอย่างเด็ดขาด โดยมีการนำตัวไปสอบสวนในห้องเฉพาะ ทั้งยังมีความพยายามปิดกั้นข้อมูลไม่ให้ทีมผู้สื่อข่าวเข้าถึงได้ รวมทั้งสั่งห้ามการส่งต่อเผยแพร่ภาพไปยังผู้สื่อข่าวอย่างเด็ดขาด

ข่าวที่เกี่ยวข้อง