โควิด-19 ผู้ป่วยสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง JN.1 ยังเป็นสายพันธุ์หลัก ป่วยแล้ว 2.1 แสนคน เสียชีวิต 51 คน พบแนวโน้มกลับระบาดในหลายประเทศ
วันนี้ (28 พ.ค.68) โฆษกกรมควบคุมโรค นำโดย พญ.จุไร วงศ์สวัสดิ์ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ และ นพ.วีรวัฒน์ มโนสุทธิ นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ เปิดเผยถึงสถานการณ์โรคโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.- 27 พ.ค.68 พบผู้ป่วยสะสม 211,717 ราย ผู้เสียชีวิต 51 ราย มีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่สัปดาห์ที่ 17 (ช่วงหลังเทศกาลสงกรานต์)
และในช่วงสัปดาห์ที่ 19 - 21 พบว่าจำนวนผู้ป่วยสูงกว่าในช่วงเวลาเดียวกันของปี 2567 โดยในปี 2568 พบการระบาดแบบกลุ่มก้อนส่วนใหญ่พบที่เรือนจำ ทั้งนี้ ข้อมูลจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ พบว่าสถานการณ์สายพันธุ์โอมิครอนในประเทศไทยตั้งแต่เดือน ม.ค.67 - วันที่ 6 พ.ค.68 สายพันธุ์ JN.1 ยังเป็นสายพันธุ์หลักของสายพันธุ์ทั้งหมดที่พบในไทย สำหรับสายพันธุ์ XEC พบแนวโน้มลดลง
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในหลายประเทศ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง และจีน รวมถึงประเทศไทย พบจำนวนผู้ติดเชื้อและผู้ป่วยอาการรุนแรงเพิ่มขึ้น สะท้อนถึงแนวโน้มการกลับมาระบาดของโรคในหลายพื้นที่ทั่วโลก ดังนั้น จึงควรมีการเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และดำเนินมาตรการป้องกันโรคอย่างต่อเนื่อง เช่น การสวมหน้ากากในสถานที่แออัด และการรักษาสุขอนามัยส่วนบุคคล
สำหรับโรคไข้หวัดใหญ่ ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. - 27 พ.ค.68 พบผู้ป่วยสะสม 343,721 ราย มีผู้เสียชีวิต 45 ราย อายุระหว่าง 3 - 91 ปี เป็นเพศชาย 19 ราย เพศหญิง 26 ราย โดยในผู้เสียชีวิต 45 ราย มีโรคประจำตัว 27 ราย (ร้อยละ 60.00) เช่น โรคไต โรคหลอดเลือดหัวใจ ความดันโลหิตสูง วัณโรคปอด และภาวะบกพร่องทางสติปัญญา เป็นต้น แนวโน้มผู้ป่วยลดลงแต่ยังสูงกว่าปี 2567 กลุ่มอายุที่พบผู้ป่วยมากที่สุด คือ กลุ่มอายุ 5 - 9 ปี สายพันธุ์ที่ตรวจพบมากที่สุด เป็น A/H1N1 (pmd09) การระบาดเป็นกลุ่มก้อนของโรคไข้หวัดใหญ่ส่วนใหญ่พบในโรงเรียน