รวบหมอเตย-สามี พบมีที่ดิน-รถ มูลค่ากว่า 40 ล้าน เตรียมแจ้งข้อหาอดีตพระมหาเอกพจน์ - ทิดแย้ม เพิ่มเติมในเรือนจำ
วันนี้ (29 พ.ค. 68) ตำรวจสอบสวนกลาง นำกำลังพร้อมหมายจับ เข้าจับกุมนางพชรพร "หมอเตย" ร่างทรงทางจิตวิญญาณ และพันจ่าเอกฉัตรชัย สามี ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประมูลร้านค้างานประจำปี ร้านค้าสวัสดิการ และเงินทำบุญกฐิน วัดไร่ขิง หลังตำรวจพบหลักฐานว่า สามีของหมอเตย หรือ “พันจ่าเอก ฉัตรชัย” เป็นเจ้าของบัญชีที่อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงนำไปใช้โอนเงินให้กับ นางสาวอรัญญาวรรณ หรือ "สีกาเก็น" เพื่อนำเงินที่ได้ไปเล่นพนันออนไลน์
โดยจุดที่เข้าค้นเป็นบ้านพักที่อยู่ด้านในสุดค่ายลูกเสือพระพุทธศาสนา มูลนิธิหลวงพ่อวัดไร่ขิง พบทั้ง หมอเตยและสามีอยู่ในห้องพัก ซึ่งทั้งคู่มีอาการตกใจ โดยหมอเตยเป็นคนแรกที่ออกมาจากห้องพักก่อน เหลือสามีของหมอเตย ที่ตอนแรกไม่ยอมออกจากห้อง แต่สุดท้ายก็ยินยอมให้ถูกจับกุม นอกจากนี้ตำรวจยังยึดรถจักรยานยนต์และรถกระบะของทั้งคู่ไปด้วย
โดยทั้งคู่ได้ถูกนำตัวขึ้นรถไปสอบปากคำที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ บก.ปปป. เพื่อดำเนินคดีตามหมายจับในข้อหาเป็นผู้สนับสนุนการกระทำผิดฐานเป็นเจ้าพนักงาน มีหน้าที่ซื้อ จัดการทรัพย์ใด เบียดบังทรัพย์เป็นของตนหรือของผู้อื่นโดยทุจริต , เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ , รับของโจร , ร่วมกันฟอกเงินและสมคบกันฟอกเงิน / โดยสามีหมอเตยยังถูกแจ้งข้อหาเป็นธุระจัดหา โฆษณาเพื่อให้มีการซื้อขายให้เช่าหรือให้ยืมบัญชีเงินฝาก บัตรอิเล็กทรอนิกส์ หรือบัญชีเงินอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อใช้ในการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี เพิ่มเติมอีก 1 ข้อหาด้วย
โดยจากการตรวจสอบข้อมูลการถือครองทรัพย์ของหมอเตยและสามี พบว่า มีถือครองทรัพย์สิน ที่ดิน และรถยนต์หลายรายการ มูลค่ามากกว่า 40 ล้านบาท
สำหรับหมายจับล็อตนี้ นอกจากหมอเตย และสามีแล้ว ศาลยังอนุมัติหมายจับนายเอกพจน์ หรือ อดีตพระมหาเอกพจน์ ในข้อหาเดียวกันนี้ด้วย แต่เนื่องจากนายเอกพจน์อยู่ระหว่างถูกฝากขังอยู่ในเรือนจำ เพราะพบเส้นทางการเงินที่โอนไปให้กับนางสาวอรัญญาวรรณ หรือ สีกาเก็นโดยตรง
ดังนั้นพนักงานสอบสวน ก็จะเข้าไปแจ้งข้อหาเพิ่มเติมในเรือนจำ ซึ่งรวมไปถึง อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิง และสีกาเก็น ที่อยู่ในเรือนจำเช่นเดียวกันด้วย เนื่องจากเป็นลักษณะการกระทำความผิดต่างกรรมต่างวาระ ยอดเงินคนละก้อนกับยอด 300 ล้านบาทที่ตำรวจดำเนินคดีไปก่อนหน้านี้