ตำรวจไล่จับท่อดัง หนุ่มบิดหนีแหกโค้งเสียชีวิต

ตำรวจไล่จับท่อดัง หนุ่มบิดหนีแหกโค้งเสียชีวิต

View icon 3.4K
วันที่ 1 มิ.ย. 2568 | 11.23 น.
ข่าวออนไลน์7HD
แชร์
เมียโอดทำเกินกว่าเหตุ! หลังสายตรวจไล่กวดรถจักรยานยนต์ท่อดัง หนุ่มบิดหนีแหกโค้งชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต จ.พระนครศรีอยุธยา

จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กโพสต์คลิปพร้อมระบุข้อความว่า "เรียบร้อยอีก 1 ตำรวจไล่ หลุดโค้งหน้าตลาดน้ำ อโยธยา ญาติใครมาดูด้วยครับ ผมแค่ตั้งข้อสงสัยว่าทำไมถึงไล่กันขนาดนี้ไล่กันเอาเป็นเอาตายเลยเหรอครับ แค่ไล่ห่าง ๆ ก็พอแล้วมั้งครับ กล้องก็มีติดหน้าอกทุกคนไม่ใช่เหรอครับ แต่เมื่อกี้ที่ผมดูแล้ว ตำรวจชุดไล่ล่าเคสนี้ไม่ได้ติดกล้อง body camera เลยสักคน ถ้าติดกล้องคงไม่ไล่ขนาดนี้ใช่ไหมครับ เพราะว่ากล้องต้องบันทึกทุกเหตุการณ์ไว้หมดแล้วแต่นี่ไม่มีกล้องเลยสักคน มีอยู่คนเดียวครับ เมื่อกี้มา 4 นาย เห็นกล้องอยู่คนเดียวที่ติดหน้าอก ถ้าผมพูดผิดตรงไหนเชิญได้เลยครับ ผมแค่ตั้งข้อสงสัย ผมเห็นไล่จับไล่ตรวจทุกวันแล้วมันหมดไหมครับไอ้ท่อดัง

อีกอย่างเมื่อกี้ตรวจค้นแล้วเขาไม่มีสิ่งผิดกฎหมายไม่ได้พกยาไม่ได้พกอาวุธปืนใช่ไหมครับ แค่ท่อดัง ไล่กันขนาดนี้เลย แต่ต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของคนอื่นด้วยครับ ถ้าคุณไม่ห่วงชีวิตตัวคุณเอง คุณก็คำนึงถึงชีวิตคนอื่นเขาบ้าง บางทีเขาก็มีลูกมีครอบครัวที่รออยุ่ที่บ้าน มันมีหลายวิธีมาก ๆ ที่จะเอาผิดกฏหมายกับเขา กล้องตามสี่แยกก็มี ป้ายทะเบียนเขาก็ติด ออกหมายเรียกไปสิครับ ถ้าออกหมายเรียกไปแล้วเขาไม่มา มันก็ออกหมายจับได้นิ เพราะมีพฤติการณ์หลบหนี ไม่เห็นต้องไล่บี้กันขนาดนี้เลย ผมไม่ได้เข้าข้างใครนะ ผมพูดเป็นกลาง ว่าเพื่อ? กี่ชีวิตแล้วครับ"

โดยวันนี้ (1 มิ.ย. 68) ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบ น.ส.คณิชคุณ อายุ 34 ปี ภรรยา นายณัฐพงศ์ อายุ 33 ปี (ผู้เสียชีวิต) นำคลิปกล้องวงจรปิดมามอบให้ผู้สื่อข่าว ซึ่งสามารถบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ขณะที่รถจักรยานยนต์ของนายณัฐพงศ์ขับเข้ามาตามถนนเทศบาลอโธยา ต.ไผ่ลิง อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีรถของเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจขับตามมาด้วยความเร็ว ก่อนที่นายณัฐพงศ์ จะเสียหลักไถลเข้าไปชนกับเสาไฟฟ้าจนทำให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตในเวลาต่อมา

น.ส.คณิชคุณ เผยทั้งน้ำตาว่า ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเวลาประมาณ 01.50 น. ที่ผ่านมา ตอนนั้นตนเองนอนอยู่ในบ้านไม่รู้เรื่องอะไร แต่สามีบอกจะนำรถจักรยานยนต์ออกไปเติมน้ำมัน จนกระทั่งมีคนขับรถจักรยานยนต์มาตามที่บ้านว่าสามีตนเองถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจตรวจไล่จับ แล้วขับรถหลบหนีจนหลุดโค้งชนเสาไฟฟ้าอาการสาหัส จึงรีบไปดู พบว่าสามีนอนอยู่ในลักษณะคว่ำหน้า มีเลือดไหลออกมาจากศีรษะจำนวนมาก ยังพอจะรู้สึกตัวแต่ก็อาการสาหัส เจ้าหน้าที่กู้ภัยก็รีบหาตัวส่งโรงพยาบาล แต่สามีอาการสาหัส เนื่องจากกะโหลกศีรษะแตก ซี่โครงหักหลายท่อน ก่อนจะเสียชีวิตในเวลาต่อมาที่โณงพยาบาล ซึ่งตอนที่เกิดเหตุนั้น ตนเองก็ไม่เห็นว่าจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจคนไหนเข้ามาดู หรือพูดอะไร มีเพียงพนักงานสอบสวนมาตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากนั้นถ่ายรูปและก็ยกรถจักรยานยนต์ของสามีขึ้นท้ายรถตำรวจไป

จนกระทั่งมีพลเมืองดีเข้ามาบอกว่า สามีของตนเองถูกตำรวจสายตรวจ ขับรถจักรยานยนต์ไล่ และหนีมาจนมาเกิดอุบัติเหตุภายหลังชนเสาไฟเสียชีวิต ซึ่งยอมรับว่ารถจักรยานยนต์ของสามีนั้นท่อดัง จึงไม่ค่อยได้นำออกไปขับตอนกลางวัน แต่วันนี้สามีต้องการจะนำรถจักรยานยนต์ไปเติมนำมันจึงขับออกไป แล้วคงไปเจอเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจไล่ตาม จึงจะขับรถจักรยานยนต์ขับเข้ามาในซอยบ้าน แล้วก็มาประสบอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าเสียชีวิต ซึ่งเบื้องต้นตนเองมองว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ ยืนยันจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ขณะที่ นายเสฏฐวุฒิ (พลเมืองดี) เผยว่า ตนเองนั้นนั่งอยู่ที่ร้านบริเวณเจดีย์วัดสามปลื้ม จากนั้นเห็น เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ขับตามรถจักรยานยนต์ท่อดังมาตั้งแต่สี่แยกวัดพระญาติ และไล่ตามมาถนนโรจนะ ขาเข้า โดยมีรถท่อดัง ขับกันมาประมาณ 3 คัน แต่อีก 2 คันเลี้ยวไปทางวัดใหญ่ชัยมงคล แต่รถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตได้เลี้ยวมาทางถนน เทศบาลอโยธยา 

สักพักหนึ่ง ตนเองก็ได้ยินเสียงรถเจ้าหน้าที่กู้ภัยวิ่งมา นึกในใจแล้วว่าต้องเกิดอุบัติเหตุจึงรีบมาจุดเกิดเหตุ แล้วนำกล้องมือถือมาถ่าย ซึ่งตนเองยังพูดที่จุดเกิดเหตุเลยว่าเป็นอย่างไร ทำเกินกว่าเหตุไปไหมเนี่ย ถ้าเกิดมีคนเสียชีวิตขึ้นมาจะรับผิดชอบอย่างไร สุดท้ายก็เกิดเรื่องจริง ๆ ตนเองมองว่าเจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุไปไหม เข้าใจว่ารถจักรยานยนต์ท่อดังในความผิด แต่มันมีวิธีอื่นซึ่งน่าจะดีกว่านี้ เช่นติดกล้องหน้า ซึ่งรถคันดังกล่าวก็ติดหมายเลขทะเบียนชัดเจน ก็ออกหมายเรียกหรือหมายจับไปเลย หรือตั้งด่านจากแบบเอาจริงเอาจังไปเลย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง